วันพฤหัสบดี , มีนาคม 28 2024
Breaking News
Home / ฟิตเนส / Cardio / ความแตกต่างในการเล่นเวทของหญิงและชาย

ความแตกต่างในการเล่นเวทของหญิงและชาย

บทความนี้จะเน้นไปทางผู้หญิงนะครับเพราะเข้าใจว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะเป็นตามเว็บ บทความหรือหนังสือที่เกี่ยวกับการเทรนการฝึกกล้ามเนื้อจะเน้นไปทางผู้ชายซะมากกว่า ซึ่งบทความต่อๆๆๆๆ ไปที่เขียนก็สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับเลยถือเป็นการชี้แจงแถลงไขซะเลย
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาครับ ประเด็นสำคัญที่จะพยายามพล่ามให้ฟังมีดังนี้ครับ

  • ส่วนใหญ่ทั้งหลายทั้งมวลที่เราเห็นว่าผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันในเรื่องความสามารถในการฝึก (performance) และการเผาผลาญ เราสามารถอธิบายได้จากขนาดและส่วนประกอบของกล้ามเนื้อมากกว่าความแตกต่างเรื่องเพศครับ
  • ความแตกต่างที่แท้จริงก็คือฮอร์โมนนั่นเอง
  • ด้วยทั้งลักษณะกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน สุดท้ายด้วยทั้งหลายทั้งมวลนี้เอาจริงๆ นะ ผู้หญิงนะเผาผลาญได้ดีกว่าและก็เหมาะกับกิจกรรมที่เป็นการออกกำลังโดยต้องอาศัยความอึด เว้นกิจกรรมที่ต้องการการระเบิดพลังช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ผู้หญิงและผู้ชายแตกต่างกันขนาดไหน

เรามาเริ่มต้นกันที่มาดูกันเต็มๆ ดีกว่าครับว่าไอ้ความต่างที่ว่านี้มันต่างกันมากมายขนาดไหนกันเชียว ทั้งเรื่องความสามารถการออกกำลัง การเผาผลาญ และความแข็งแรงนะครับ คำตอบก็เหมือนจะง่ายๆ ว่าแหงล่ะว่าต้องต่างกันสุดขั้วอยู่แล้วแต่คุณพระครับพี่น้อง คำตอบจริงๆ คือ

“ความแตกต่างของหญิงและชาย มันไม่ได้ต่างมากมายอะไรเลยครับ”

ถ้ามองเรื่องการเผาผลาญ ทั้งหญิงชายมีความใกล้เคียงกันแต่ผู้หญิงจะมีอัตราการเผาผลาญที่ช้ากว่านิสสสสนึงครับ ความแตกต่างที่ว่านี้มาจากความแตกต่างของกล้ามเนื้อ (muscle mass) และขนาดตัว (body size) นะครับ ไม่ใช่เพราะอ๋อเพราะแกเป็นผู้หญิงไงแกเลยอ้วน

อย่างที่รู้ครับว่าถ้าเราจะดูเรื่องอัตราการเผาผลาญเราสามารถดูได้จากขนาดของกล้ามเนื้อ (lean mass) ที่เรามีในร่างกาย ยิ่งมีกล้ามเนื้อเยอะระบบเผาผลาญก็ยิ่งดี หมายความว่าคุณชายและคุณหญิงไงคุณก็อ้วนถ้าทั้งเนื้อทั้งตัวเรามีแต่ไขมันมีกล้ามเนื้อกระจึ๋งเดียว ถ้าเราต้องการให้ระบบเผาผลาญดีทั้งหญิงและชายก็สร้างกล้ามเนื้อ ระบบเผาผลาญก็จะดีเอง

ความแตกต่างด้านกล้ามเนื้อ

ไหนๆ พูดถึงเรื่องความต่างของกล้ามเนื้อ คราวนี้ชายกับหญิงต่างกันอย่างไรในแง่กล้ามเนื้อ จากที่ได้อธิบายครับแสดงว่าผู้ชายกล้ามเนื้อเยอะกว่าชัวร์โดยผู้หญิงจะมีกล้ามเนื้อประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ชายเท่านั้นเอง ซึ่งกล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบน (upper body) ผู้หญิงจะยิ่งต่างครับแต่กล้ามเนื้อส่วนใหญ่ผู้หญิงจะไปอยู่ที่ครึ่งล่างครับ (lower body) และที่เราเห็นกันง่ายๆ ชัดๆ เลยว่าผู้ชายแข็งแรงกว่าผู้หญิงก็จากทั้งหลายทั้งมวลที่ได้อธิบายนี่แหละครับ ที่มันเป็นยังงั้นเป็นผลมาจากขนาดของกล้ามเนื้อนั่นเอง หมายความว่าถ้าผู้ชายกับผู้หญิงฝึกคล้ายๆ กัน มีขนาดกล้ามเนื้อเท่าๆ กัน ความแข็งแรงความสามารถทั้งหลายแหล่ก็พอๆ กันนั่นแหละ

ฮอร์โมนเพศ สิ่งที่ต่างกันอย่างแท้จริง

คราวนี้คือสิ่งที่ต่างกันจริงๆ ของผู้หญิงและชายนะครับนั่นคือฮอร์โมนนั่นเอง ผู้ชายมีเทสทอสตอโรน (Testosterone) ส่วนผู้หญิงมีเอสโตรเจน (Estrogen) แน่นอนว่าฮอร์โมนของเพศชายมีความสำคัญเป็นอย่างมากในเรื่องกำลังหรือความแข็งแรง (strength) และการสร้างกล้ามเนื้อ แต่เอสโตรเจนเอง (Estrogen) ก็มีผลทำให้กล้ามเนื้อผู้หญิงมีการฟื้นตัวได้ดีกว่า ถ้าให้เปรียบเทียบก็คือผู้ชายจะมีพละกำลังมากกว่าแต่ผู้หญิงมีความสามารถในการฟื้นตัวได้ดีกว่า

มีอีกตัวที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ครับเพราะสำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อ ถ้าบอกว่าเพราะผู้ชายมีเทสทอสเตอโรนไงเลยกล้ามใหญ่เบ้อเร่อเพราะฮอร์โมนตัวนี้ช่วยนี่เอง แล้วผู้หญิงล่ะอะไรที่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ คำตอบคือฮอร์โมนอีกตัวนึงครับที่สำคัญอย่างแรงที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อนั่นคือโกรทฮอร์โมน (GH : Growth Hormone) ซึ่งผู้หญิงมีมากว่าผู้ชายถึง 3 เท่าทีเดียวเชียว! จึงเป็นสาเหตุว่าก็ถ้าผู้หญิงไม่มีเทสทอสเตอโรนแต่ไหงดูพวกฟิตเนสโมเดลฝ่ายหญิงทั้งหลายเค้าก็มีกล้ามกันนะ ก็เพราะสาเหตุนี้เองครับ

แล้วถ้าผู้หญิงมีโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) เยอะขนาดนั้นไหงดูไม่มีกล้ามเลย คำตอบคืออนิจจาคนเราเกิดมาไม่เท่ากัน ผู้หญิงเค้าเริ่มต้นด้วยต้นทุนต่ำกว่าผู้ชายไง คือเริ่มต้นผู้หญิงจะมีเปอร์เซนต์ไขมันสูงกว่า ลีนแมสหรือกล้ามเนื้อในร่างกายน้อยกว่านั่นเอง บวกกับการฝึกการออกกำลังกายของแม่หญิงทั้งหลายเองที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนลู่วิ่งเอย ปั่นจักรยานเอย ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วด้วยเหตุผลทั้งหลายที่ว่ามานี้

 

ขอบคุณที่มาจาก : fitnessfiction.com

 

Facebook Comments

Check Also

ร่อง 11 คืออะไร แนะนำเครื่องออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงที่อยากมีกล้ามท้อง

ทุกวันนี้สาว ๆ …