วันศุกร์ , มีนาคม 29 2024
Breaking News
Home / ลดน้ำหนัก / ปัญหาโลกแตก “ผอมแต่มีพุง” (Skinny Fat) แก้ยังไงดี?

ปัญหาโลกแตก “ผอมแต่มีพุง” (Skinny Fat) แก้ยังไงดี?

ผอมแต่ลงพุง ถือว่าเป็นปัญหาระดับชาติ เพราะใครจะไปมั่นใจ เวลาไขมันหน้าท้องปลิ้น ใส่อะไรก็ไม่สวย หาเสื้อผ้าใส่ก็ยาก กินข้าวอิ่มเสร็จพุงก็ย้วยออกมาทัน

จะบ่นดังก็ไม่ได้ เพราะคนรอบข้างก็จะแขวะว่า “แกไม่เห็นอ้วนเลย” “แกอ้วนแล้วชั้นเรียกว่าอะไร” “อยากให้มีแต่คนชมว่าผอมหุ่นดีหรอ“?

ถ้าเราเป็นคนอ้วนผอม “Skinny Fat” ถ้าซ่อนเก่งเราก็จะดูไม่อ้วน หุ่นก็เหมือนมาตรฐานผู้หญิงไทยทั่วไป

รูปร่างภายนอกมองดูเผินๆก็ดูสมส่วน หน้า แขน และขาเล็ก จะมีก็แต่ส่วนท้องและสะโพกนี่แหละ ที่ไม่แบนเรียบเหมือนคนที่มี แขนขาใหญ่

ไม่เคยมีใครเข้าใจเลยว่า ใต้ผ้านั้นมีพุงที่เป็นปัญหากวนใจ ออกกำลังกาย ซิทอัพ และควบคุมอาหารยังไง พุงก็ไม่ยอมไปสักที ใส่เสื้อผ้าผิดชีีวิตเปลี่ยน คนจะทักทันทีว่า “ท้องหรอ” ทันที

วันนี้ผมโค้ชเค เลยจะมาแนะนำ 4 วิธีลดพุง ฉลับสาวลงพุงโดยเฉพาะ เราจะมาดูว่า ควรออกกำลังกายอย่างไร ดูแลเรื่องอาหารยังไง เจ้า “พุง” ถึงจะลดขนาดลง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อรูปร่างส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะหน้าอก (นม) และใบหน้า

ทำไมผอมแต่มีพุง (Skinny Fat) สาเหตุเกิดจากอะไร?

ก่อนที่จะไปเรียนรู้เคล็ดลับลดไขมันหน้าท้อง เรามาดูสาเหตุกันก่อนครับว่า ทำไมหุ่นเราถึงเป็นคน “ผอมแต่มีพุง”?

1. อาหารที่มีน้ำตาลสูงๆ (High Sugar Content Foods)

ถ้าเรากินอาหารที่มีน้ำตาลสูงๆ เช่น ชานมไข่มุก พิซซ่า และโดนัท บางครั้ง การกินอาหารเหล่านี้เยอะๆ อาจจะไม่ทำให้เราอ้วนขึ้น ส่องดูกระจกหุ่นก็ยังไม่เปลี่ยน

แต่ถ้าเผลอหลุดกินหรือตามใจปากบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไขมันก็จะไปกองกันอยู่ที่พุง

ดังนั้น เราก็ต้องลดหรือเลี่ยงอาหารหวานๆ เพราะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดไขมันสะสมที่ท้องได้ง่าย และรวดเร็วกว่าอาหารไขมันสูงเสียอีก

ผมแนะนำให้เลี่ยงอาหารจำพวก ขนมปังเบเกอรี่ น้ำแข็งไส เช่น บิงซู เมนูขนมหวานไทย เช่น บัวลอย ไอศครีม และโดนัท เป็นต้นครับ

2. เครื่องดื่มแอลกอลฮอร์​ (Alcoholic Beverages)

ถ้าเป็นคนเที่ยวบ่อยหรือต้องเข้าสังคมเป็นประจำ และต้องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ ก็อาจจะยิ่งทำให้พุงปลิ้นออกมามากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่ม ม็อกเทล ค็อกเทล และไวน์ขาว ไวน์แดง เป็นต้น

เมื่อร่างกายได้รับแอลกอฮอล์เข้าไป มันก็จะมุ่งไปที่การกำจัดแอลกอฮอล์ก่อน อาหารหรือกับแกล้มที่กินเข้าไป จึงตรงดิ่งไปเป็นไขมัน ส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันไว้ที่หน้าท้องมากขึ้นเรื่อยๆ

3. ลดน้ำหนักผิดวิธี (Crash Diet)

การลดน้ำหนักผิดวิธี เช่น กินยาลดความอ้วน และการอดอาหารแบบกระทันหัน หรือกินน้อยเกินไป จะทำให้ร่างกายเครียด ไม่ยอมดึงไขมันออกมาใช้เป็นพลังงาน

การอดอาหารจะทำให้ร่างกายไปดึงกรดอะมิโนจากมวลกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงานแทน ผลที่ตามมา คือ กล้ามเนื้อหดตัวเล็กลง หน้าอก (นม) เล็กลง กระดูกกระเดี้ยวและสุขภาพไม่แข็งแรง

ตัวเลขบนตราชั่งอาจจะลดลง แต่ใบหน้าตอบ แลดูคล้ำ หน้าอกแบน ทุกส่วนดูจะเล็กไปหมด ยกเว้นพุงที่ยังยื่นอยู่

อีกทั้ง มีหลายเคสแล้วที่กินยาลดน้ำหนัก แล้วเกิดมีอาการนิ่วในไต จนต้องหามส่งโรงพยาบาลมาแล้ว

4. ออกกำลังกายผิดวิธี (Unsuitable Exercise)

ปัญหาที่ผมเจอมาส่วนใหญ่ คือ โหมออกกำลังกายมากเกินไป เช่น ใน 1 วัน ออกกำลังกายทั้งแบบ เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) และต่อด้วยคาร์ดิโอ การทำแบบนี้จะทำให้ร่างกายเครียดเกินไป

ยิ่งพอไปบวกกับการกินอาหารน้อยๆ จนทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น โดยเฉพาะโปรตีน

ทีนี้ แทนที่ร่างกายจะไปดึงไขมันที่พุงมาเผาผลาญออกไป กลับไปดึงพลังงานจากมวลกล้ามเนื้อมาใช้ระหว่างออกกำลังกายแทน

ดังนั้น การกินอาหารที่พอดีกับความต้องการของร่างกาย และโปรแกรมการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นที่เหมาะสม จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

ผู้หญิงลงพุง หรือ “ผอมแต่มีพุง” ควรออกกำลังกายแบบไหน?

เวทเทรนนิ่ง (WEIGHT TRAINING/WEIGHT LIFTING)

ก่อนอื่นผมอยากบอกว่า เราต้องเริ่มออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เน้นไปที่เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ที่เพิ่มน้ำหนักเพื่อให้เกิดแรงต้าน

การทำแบบนี้จะทำให้เรามีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้น มวลกล้ามเนื้อก็จะเข้าไปเผาผลาญ และแทนที่เจ้าไขมันที่พุง

การเล่นเวทเทรนนิ่ง เราอาจจะเข้าฟิตเนส ซื้อดัมเบลมา หรืออาจจะเริ่มต้นด้วยการใช้แค่น้ำหนักตัว (Body Weight) ก่อนก็ได้

คาร์ดิโอแบบ HIIT

คาร์ดิโอแบบ HIIT (High Intensity Interval Training) เป็นการออกกำลังกายแบบต่อเนื่องที่พักน้อยๆ เน้นการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา ใช้เวลาสั้นๆ แต่ช่วยให้ร่างกายดึงไขมันออกมาใช้เยอะมาก โดยเฉพาะหลังจากที่เราออกกำลังกายเสร็จ

การออกกำลังกายแบบนี้ เราต้องเริ่มจากเบาๆก่อน เพราะมีความเข้มข้น หรือหนักหนาสาหัสสำหรับมือใหม่เอาการเหมือนกัน

พยายามสังเกตสัญญาณต่างๆจากร่างกายให้ดี พยายามทำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องฝืนตัวเองมากเกินไป

ผมแนะนำให้ทำ HIIT สลับกับเวทเทรนนิ่ง เช่น วันจันทร์เล่นเวทเทรนนิ่ง และวันอังคารก็เล่นคาร์ดิโอแบบ HIIT สลับกันไปแบบนี้เรื่อยๆ และก็มีวันหนึ่งที่พัก (Rest Day) โดยไม่ต้องทำอะไรเลย ก็อาจจะมี Cheat Meal ในวันนี้ได้ครับ

ทิปส์ดีๆจากโค้ชเค ในการลดไขมันหน้าท้อง (TUMMY FAT BURNING TIPS)

หลังจากที่เกริ่นเรื่องออกกำลังกายไปแล้ว ต่อมาผมมีทิปส์ดีๆในการกินอาหารเพื่อลดไขมันหน้าท้องมาฝากครับ

  1. เริ่มต้นง่ายๆด้วยการค่อยๆปรับเปลี่ยนอาหารที่กิน อาจจะยังไม่ต้องนับแคลอรี่ก็ได้ เราอาจจะเริ่มงดอาหารที่เป็นต้นเหตุก่อน เช่น เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงๆ อย่างน้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง รวมไปถึงขนมหวาน ข้าวขาว (ข้าวสวย) ขนมปังขาว เมนูเส้นๆ เช่น ผัดไทย เส้นก๋วยเตียว เมนูทอดอมน้ำมัน และอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างโดนัทและพิซซ่า เป็นต้นครับ
  2. กินโปรตีนให้มากขึ้น เพราะกระอะมิโนจากโปรตีน จะเข้าไปช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ มวลกล้ามเนื้อก็จะไปเบิร์นไขมันต่อไป เน้นไปที่อาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ เนื้อวัวและเนื้อหมูติดมันน้อย ถ้าใครเดินทางบ่อย หรือไม่ค่อยได้เตรียมอาหารเอง อาจจะซื้ออาหารเสริมโปรตีนมากินเพิ่ม เช่น เวย์โปรตีน เป็นต้นครับ
  3. ถ้าเพิ่งเริ่มออกกำลังกาย ควรอ่านเยอะขึ้น หาความรู้เพิ่มเติม และปรึกษาเทรนเนอร์ที่มีประสบการณ์ เพราะถ้าโปรแกรมมันไม่เหมาะกับคนอ้วนลงพุง หรือความหนักมีมากเกินไป เน้นในส่วนของร่างากายที่ไม่ถูกจุด ก็อาจจะทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ และไม่เห็นผลได้
  4. ท้ายสุด เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ บริหารเวลานอนให้ดี เพราะกระบวนการเผาผลาญไขมัน สร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมร่างกาย จะเกิดขึ้นระหว่างที่เรานอนหลับ ทำให้เราไม่รู้สึกไม่เหนื่อยล้า ไม่อ่อนเพลีย ร่างกายไม่เครียด และไขมันที่พุงก็จะถูกสลายไปได้ง่ายขึ้นครับ

 

ขอบคุณที่มาจาก : fitterminal

Facebook Comments

Check Also

ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร อย่างไร ให้ไม่โทรม ไม่เกิดโยโย่ และอันตรายต่อร่างกาย

ลดน้ำหนัก กี่คร …