ฟิตเนสแหล่งรวมคนรักสุขภาพ

ปัจจุบันผู้คนหลากเพศหลายวัย รวมถึงทุกสาขาอาชีพ ต่างเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและต้านทานต่อโรคภัยซึ่งแฝงตัวอยู่มากมายในสังคมยุคโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะคนกรุงเทพมหานครที่นิยมเลือกใช้บริการฟิตเนสตามสถานที่ต่างๆ อย่างเนืองแน่น ด้วยเหตุผล 1.ฆ่าเวลาหลังเลิกงานไม่ต้องผจญกับรถติด 2.ใช้เป็นศูนย์รวมเพื่อนฝูงที่ห่างหายไปนานได้มาเจอกัน 3.เพื่อพลานามัยอันสมบูรณ์

ถือเป็นกิจกรรมยามว่าง สำหรับ “พงศ์ศักร์ ฉันทสิริสวัสดิ์” (ฮง) เจ้าของธุรกิจเหล็กเส้น ภายหลังเสร็จสิ้นจากการบริหารงาน ก็จะใช้ฟิตเนสซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายมาปลดปล่อยความเหน็ดเหนื่อย และเติมเต็มความสุขของวันที่ขาดหาย เพื่อเพิ่มเป็นพลังในวันต่อไป

ฮง ดีกรีหนุ่มนิติศาสตร์ วัย 30 ปี บอกถึงเหตุผลการมาใช้ฟิตเนส อันดับแรก คือ ได้เจอเพื่อนซึ่งห่างหายไปนานหลายปี ได้มามีกิจกรรมร่วมกันเหมือนตอนสมัยเรียน เนื่องจากหลายคนต้องทำงาน ดังนั้น เวลาเจอกันแต่ละครั้งค่อนข้างลำบาก ยกเว้นจะนัดไปเที่ยวตามต่างจังหวัดแต่ก็ยังทำได้ยาก ต่างจากมาฟิตเนสเพราะได้เจอเพื่อนถึงสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

เหตุผลอีกประการ ต้องยอมรับว่า หากจะไปออกกำลังกายโดยไปวิ่งตามสวนสาธารณะ หรือเช่าสนามเพื่อเล่นฟุตบอล ซึ่งบางครั้งอาจต้องพบปัญหาเรื่องสภาพอากาศ อย่างเช่น ช่วงนี้ฝนตกหนัก เวลาไปก็เล่นไม่ได้ ทำให้เสียเวลาเปล่า แต่การมาฟิตเนสไม่ต้องเจออะไรแบบนั้นเล่นได้ตลอดเวลา

ฮง บอกว่า ข้อดีในการมาเล่นฟิตเนส นอกจากที่เล่าไปแล้ว คือ ตั้งแต่เริ่มเล่นได้ปีกว่า ร่างกายดีขึ้นเห็นผลจริงๆ รู้สึกได้เลยว่าตัวเองเฟิร์มขึ้น จากเมื่อก่อนเป็นคนที่มีรูปร่างผอมมากๆ แต่ปัจจุบันเริ่มมีกล้ามเนื้อและหนาขึ้นกว่าเดิม และยังกินได้เยอะ ซึ่งอดีตเป็นคนที่กินน้อยอยู่แล้ว จึงทำให้ดูตัวเองเป็นรูปเป็นร่างสมส่วน (หัวเราะ)

นอกจากนี้ การเล่นฟิตเนสยังเปรียบได้เป็นการเปิดโลกทัศน์ โดยเฉพาะได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ไม่ใช่เฉพาะได้พบเจอกับเพื่อนเก่าเท่านั้น เช่น เริ่มตั้งแต่พนักงานต้อนรับในคลับฟิตเนส พนักงานทำความสะอาด ตลอดไปจนถึงเทรนเนอร์ และเพื่อนคนอื่นที่มาออกกำลังกายด้วยเหมือนกัน

“ผมมาออกกำลังกายที่ฟิตเนสทุกครั้ง มีอะไรดีๆ ติดกลับไปเสมอ เช่น ได้แชร์ประสบการณ์กับเพื่อน ว่าต่างคนต่างไปเจออะไรมาก็จะเล่าสู่กันฟัง มีทั้งเรื่องตลก สนุก เศร้าบ้างก็มี บางทีได้คุยกับผู้ใหญ่ที่มาเล่นด้วยกัน และมีโอกาสพูดกันถึงเรื่องการทำงาน ก็ได้ตรงนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจตัวเองเพื่อลดความเสี่ยง”

นอกเหนือจากการออกกำลังกายตามฟิตเนสแล้ว ฮง บอกว่า ยามว่างยังมีอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถอยู่รวมกับเพื่อนได้ และแถมเป็นการช่วยฝึกสมาธิ คือ การควบบิ๊กไบค์คู่ใจไปต่างจังหวัดพร้อมก๊วน แม้จะเพียงปีละ 12 ครั้ง แต่ก็ทำให้มีเวลาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น

ฮง เล่าว่า ส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบความเร็วอยู่แล้ว ดังนั้น กีฬาประเภทนี้จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูงในการควบคุมรถ เนื่องจากสมรรถนะกำลังของรถค่อนข้างแรง และสาเหตุที่ต้องเข้าฟิตเนสก็เพื่อประการนี้ด้วย เพราะโดยลำพังหากเป็นสมัยเมื่อก่อนที่ตัวผอมกะหร่อง คงจะเอารถไม่อยู่ (หัวเราะ)

ไม่ใช่เพียงเข้าฟิตเนสออกกำลังกายเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์เท่านั้น ฮง ยังบอกว่า มีกีฬาอีกประเภทคือ ยิงปืน ก็เป็นสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนกัน และจำเป็นต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายเพื่อควบคุมการยิงปืน ดังนั้น การได้เข้าฟิตเนสสามารถช่วยได้เยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องกำลังแขนและข้อมือ ซึ่งสำคัญต่อกีฬาประเภทนี้เช่นกัน

 

ขอบคุณที่มาจาก : posttoday