5 ประโยชน์จากการฝึก Cross-Training

1.ช่วยเพิ่มระดับความฟิต

การออกกำลังกายในรูปแบบที่ต่างออกไปจะเพิ่มระดับความฟิตในแบบที่ต่างออกไปด้วย ความฟิตและความแข็งแรงมาได้ในหลายรูปแบบ ดังนั้นการผสมผสานรูปแบบการออกกำลังกายที่เข้ากันได้จะช่วยเพิ่มทั้งพลังและประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรทำก็คือ ให้ผสมผสานการฝึกคาร์ดิโอหลายรูปแบบ , การฝึก Strength training และการยืดกล้ามเนื้อ เข้ามาในตารางการฝึกประจำ เพราะมันจะช่วยให้เราได้ฝึกกล้ามเนื้อหลายส่วนและเพิ่มความฟิตโดยรวม

2.ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ

การที่เราออกกำลังกายหลายแบบ จะช่วยในการหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บและลดโอกาสในการใช้กล้ามเนื้อบางส่วนมากเกินไป ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องสำคัญมากโดยเฉพาะกับนักวิ่ง เพราะเป็นกีฬาที่ต้องใช้ขาเป็นหลักและต้องโดนแรงกระทบกับพื้น การเพิ่มความแข็งแรงเพื่อซัพพอร์ทขาและกล้ามเนื้อแกนกลางจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บได้

3.มันช่วยส่งเสริมท่วงท่าและการประสานงาน

การได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งจะทำให้เราต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่นหนักขึ้นตามไปด้วย การฝึก Cross-training จะช่วยแก้ไขความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อในการบริหารกล้ามเนื้อส่วนที่เราไม่ค่อยได้ใช้ในการออกกำลังกายหลัก

4.ช่วยเพิ่มความเข้มแข็งของจิตใจ

การฝึก Cross-training ไม่เพียงส่งผลดีต่อสุขภาพทางกาย แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย การออกกำลังกายจะทำให้มีการหลั่งเอ็นโดรฟิน การออกกำลังกายหลายรูปแบบจะช่วยให้จิตใจสงบหรือช่วยให้ผ่อนคลายจากวันเครียดๆ ได้

ยกตัวอย่างเช่น หากเพื่อนๆ ต้องการผ่อนคลายความเครียดในชีวิตประจำวัน ก็ให้ฝึกวิ่งระยะไกลหรือเล่นโยคะ หรือถ้าหากมีความเครียดจากการทำงาน ก็อาจจะระบายอารมณ์ด้วยการฝึกต่อยมวยแบบ HIIT ก็ได้

5.ช่วยให้เราฟื้นร่างกายได้เร็วขึ้น

ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเล่นกีฬาอะไรเป็นหลักเราควรที่จะมีวันสำหรับพักเพื่อฟื้นร่างกาย และในวันที่เราพักก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ฝึกออกกำลังกายแบบอื่น หนึ่งในประโยชน์ของการฝึก Cross-training ก็คือช่วยให้เราได้ทำกิจกรรมฟื้นร่างกายในขณะที่ได้พักไปด้วย ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความฟิตและหลีกเลี่ยงอาการได้รับบาดเจ็บ

การฝึกโยคะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการทำกิจกรรมเพื่อฟื้นร่างกาย เพราะเมื่อฝึกแล้วจะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังกล้ามเนื้อส่วนที่เมื่อยล้า ช่วยให้อาการตึงเครียดเมื่อยล้าหายไปอย่างมีประสิทธิภาพ