วันศุกร์ , มีนาคม 29 2024
Breaking News
Home / สุขภาพ / 6 เคล็ดลับ…สร้างสุขภาพดี ของขวัญปีใหม่…ให้ตัวเอง

6 เคล็ดลับ…สร้างสุขภาพดี ของขวัญปีใหม่…ให้ตัวเอง

ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกทีแล้ว หลายคนอาจกำลังคิดหาของขวัญเพื่อส่งมอบให้กับคนที่รัก คนที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตาม แต่สำคัญที่สุด คนที่เราควรมอบของขวัญให้ก่อนใคร ไม่ใช่คนอื่น แต่คือตัวเราเอง และของขวัญที่มีค่าที่สุด ก็คือ การสร้างสุขภาพดีๆรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงหลายครั้งทีเดียว ที่เรามักผัดวันประกันพรุ่งกับเรื่องของการดูแลสุขภาพ ประโยคที่ได้ยินบ่อยๆ ก็คือ…เอาไว้ก่อน…ไม่เป็นอะไรหรอก ซึ่งกว่าที่จะรู้ตัวว่าป่วย บางทีก็สายไปเสียแล้ว

ปีใหม่นี้ ขอนำเสนอการเริ่มต้นการมีสุขภาพดีอย่างง่ายๆ เป็นของขวัญให้ตัวเองกัน…

เริ่มจากของขวัญชิ้นแรก ให้รางวัลตัวเองด้วยการ ตรวจสุขภาพประจำปี คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า ถ้าร่างกายแข็งแรงก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ เพราะไม่น่าจะมีโรคอะไร ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะโรคบางโรคอาจไม่แสดงอาการ และถ้าไม่ตรวจก็จะไม่รู้ การให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เป็นการเตรียมรับมือกับความผิดปกติที่เกิดจากโรคต่างๆ ได้ทันท่วงที ตัวอย่างเช่น การตรวจหาโรคหัวใจ ซึ่งปัจจุบันพบในคนวัยทำงานมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมการบริโภคอาหารไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย ความเครียด สูบบุหรี่ การไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เราสามารถคาดคะเนความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ในการตรวจสุขภาพไม่ควรละเลยการเจาะหาน้ำตาลในเลือดเพื่อตรวจหาเบาหวาน โดยปกติแนะนำให้คนที่มีอายุมากกว่า 45 ปีควรจะเจาะเลือดทุกปี แต่หากมีปัจจัยเสี่ยงเช่น อ้วน รับประทานหวานมาก ดื่มสุรา หรือมีประวัติของโรคในครอบครัว ควรตรวจเช็กเลือดอยู่บ่อยๆ รวมถึงการตรวจวัดความดันโลหิต เพราะหากปล่อยให้ความดันโลหิตสูงเป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆมากขึ้นทั้ง โรคหลอดเลือดสมองตีบ โรคไตวาย โรคหัวใจ อัมพาต และที่สำคัญควรตรวจคัดกรองโรคมะเร็งอย่างสม่ำเสมอ เพราะหากพบในระยะเริ่มต้น และรักษาอย่างทันท่วงที จะมีโอกาสรักษาหายได้

มีโภชนาการดี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพดี ที่ทุกคนสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเอง เหมือนคำกล่าวที่ว่า “You are what you eat” กินอย่างไร เราก็จะกลายเป็นอย่างนั้น ปีใหม่นี้ ถ้าใครที่เคยมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกสุขลักษณะก็ควรปรับพฤติกรรมของตนเอง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเค็มจัด หวานจัด มันจัด ควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่เหมาะสม ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ต่างๆให้ครบ 5 สี เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆแล้ว ยังมีสารพฤกษเคมีที่ให้คุณประโยชน์และมีสารต้านอนุมูลอิสระแตกต่างกันออกไป ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะขบวนการทั้งหลายในร่างกายของเราต้องพึ่งน้ำในการทำงาน เพื่อจะได้มีน้ำเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงเซลล์ ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด ช่วยให้สดชื่นตลอดวัน

ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่าได้รับอาหารครบถ้วนเพียงพอหรือไม่ บางครั้งอาจพึ่งพาอาหารในกลุ่มที่เรียกว่า อาหารฟังก์ชัน หรือ Functional foods เข้ามาเป็นตัวช่วยเสริม ซึ่งปัจจุบันมีการจัดกระเช้าอาหารฟังก์ชันมอบเป็นของขวัญสุขภาพกันอยู่แล้ว เพราะอาหารเหล่านี้นอกจากจะให้พลังงานและมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นประโยชน์ทางสุขภาพ เช่นสารพฤกษเคมี ที่ได้จากพืชบางชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิต้านทานโรค หรือควบคุมการออกฤทธิ์ของฮอร์โมน สำหรับอาหารฟังก์ชันที่คนไทยรู้จักกันดีและนิยมรับประทาน มีหลายชนิด เช่น โสม นิยมรับประทานเพื่อบำรุงสมองเพราะมีสารจินเซนโนไซด์ ที่พบว่า มีผลช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาท ส่งผลต่อระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และจดจำ น้ำมันปลา ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัวที่จะช่วยลดไขมันในเลือดและป้องกันโรคหัวใจ เห็ดทางการแพทย์ เช่น เห็ดไมตาเกะ เห็ดยามาบูชิตาเกะ ถั่งเฉ้า ที่นอกจากให้คุณค่าทางโภชนาการแล้วยังมีสารที่ให้ประโยชน์ในการส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย พรุน ผลไม้ฟังก์ชันที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีใยอาหารที่ละลายน้ำจำนวนมากที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและขจัดของเสียออกจากร่างกาย รวมถึง ซุปไก่สกัด ที่มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ช่วยให้เลือดสามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนหน้าซึ่งเป็นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ การคิด ตัดสินใจ ได้ดีขึ้น ช่วยให้ความเหนื่อยล้าน้อยลง

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะคนเราไม่ใช่เครื่องจักร ควรจัดสรรเวลาการทำงานและเวลาพักผ่อนให้เหมาะสม คนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ นอกจากจะทำให้เกิดความเครียด จิตใจหดหู่ ควรจะมีเวลาให้ร่างกายและจิตใจได้หยุดพักและผ่อนคลายบ้าง และการนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้ดีขึ้น

หาวิธีผ่อนคลายหรือลดความ เครียด เมื่อรู้ตัวว่ากำลังเครียด ควรปล่อยวางความคิด หรือหยุดการทำงานตรงหน้าสักพัก หลับตา หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนออกช้าๆ จะช่วยให้จิตใจสงบได้เร็วขึ้น ควรหาเวลาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง หรือทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลาย เช่น ปลูกต้นไม้ ดูหนัง เล่นกับสัตว์เลี้ยง ไปเที่ยวพักผ่อน

ออกกำลังกายเป็นประจำและสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มฮอร์โมนความสุขแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า หน้าตาสดใสแถมผิวพรรณยังเปล่งปลั่งอีกด้วย

ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกิน หรือ อ้วนลงพุง เพราะจะทำให้เกิดโรคต่างๆได้ง่าย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน และความดันโลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้น ควรรักษาสมดุลของพลังงานที่กินเข้าไป นอกจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว ควรทำกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน เช่น เดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การทำงานบ้าน หรือทำสวน ฯลฯ

 

ขอบคุณที่มาจาก : thairath.co.th

Facebook Comments

Check Also

วัยทอง อาหารที่ควรรับประทาน และ สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

วัยทอง จากกรณีท …