วันศุกร์ , มีนาคม 29 2024
Breaking News
Home / ลดน้ำหนัก / 7 สาเหตุที่ ออกกำลังกายแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลด

7 สาเหตุที่ ออกกำลังกายแล้ว แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลด

ถ้าหากคุณเป็นคนที่ดูแลเรื่องอาหาร และออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ แต่ไม่รู้สึกเลยว่าจะผอมลงหรือน้ำหนักเราลดลง
เชื่อสิคะ ว่ามันอาจจะมีนิดนึงที่เรายังทำไม่เต็มที่ หรือเราอาจจะเครียดเกินไปเพราะคอยชั่งน้ำหนักทุกวันและตลอดเวลา
การลดน้ำหนักหรือสัดส่วนจริงๆแล้ว เราต้องมองว่ามันเป็นการทำให้สุขภาพและหุ่นเราดีขึ้น ไม่ใช่มองว่าวันนี้หรืออาทิตย์นี้น้ำหนักเราจะลดลงซักกี่กิโลหลังจากการหักโหมออกกำลังกายและอดอาหาร
เราต้องมองว่าอาหารคือพลังงานของเรา และมันเป็นส่วนที่มาซ่อมแซมร่างกายเราหลังจากออกกำลังกาย ถ้าคิดว่าจะทานน้อยหรือทานคลีนเพื่อลดน้ำหนักอย่างเดียวมันจะยิ่งเครียด เราต้องมีความสุขกับการทำทั้ง 2 อย่าง แล้วเลิกคิดเรื่องตัวเลขบนตราชั่งซะ

ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณรู้เรื่องอาหาร หรืออกกำลังกายมากขนาดไหน แต่คุณกำลังพบกับปัญหาการลดหุ่น 7ข้อนี้อาจจะช่วยตอบคำถามคุณได้ค่ะ

  1. คุณอาจจะกำลังทานอาหารผิดประเภท
    สมัยนี้อาหารคลีนมีออกมาเยอะมากๆ ทั้งของหวาน อาหารคาว ของทานเล่น ไม่ว่าจะแคลลอรี่ต่ำ ไขมันต่ำ หรือคาร์โบไฮเดรต หรือที่เราเรียกกันว่าน้ำตาลหรือแป้งต่ำ หลายคนจะแค่มองว่าอาหารเหล่านี่มีแคลลอรี่ไม่สูง ทานได้หากเรากำลังลดน้ำหนัก แทนที่จะมองว่า อาหารเหล่านี้เราควรทานเพื่อเป็นแหล่งพลังงานของเรา สิ่งสำคัญที่สุดถ้าหากว่าอยากประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักหรือสัดส่วนคือการทานอาหารที่ไม่แปรรูป เช่น ไข่ ไก่ หรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ผัก ผลไม้ (ในจำนวนที่เหมาะสมเพราะบางชนิดมีนน้ำตาลสูง) ถั่ว ธัญพืชต่างๆที่ไม่ผ่านกรรมวิธีแปรรูป

ในวันที่เราออกกำลังกายแบบใช้แรงต้านหรือเวทเทรนนิ่งก็ทานอะไรที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบสูงเช่น มันหวาน ผลไม้ต่างๆ ข้าว (ได้ทั้ง 2อย่างทั้งขัดสีและไม่ขัดสี) ธัญพืช หรือข้าวโอ๊ต แล้วในส่วนวันที่เราพักหรือคาร์ดิโออย่างเดียว ให้เน้นทาน ผัก และเนื้อสัตว์หรือไข่ ร่างกายเราจะได้ดึงไขมันสะสมออกมาใช้มากขึ้น

  1. คุณอาจจะทานมากเกินไป
    ตามหลักแล้ว ถ้าหากเราอยากจะลดน้ำหนักหรือสัดส่วนไขมันในร่างกาย แคลลอรี่ที่เราทานเข้าไปควรจะน้อยกว่าแคลลอรี่ที่เราใช้ต่อวัน แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทานน้อยมากๆจนทรมานตัวเอง อย่ากินเพราะเบื่อ ถ้าเราคำนวณแคลลอรี่และสารอาหารเป็น เราจะไม่มีปัญหาเรื่องความหิวเลย

เวลาทานอาหารให้ทานช้าๆ และทานเพราะหิวจริงๆ ไม่ใช่นั่งอยู่ดีๆ ทำงานเพลิน หยิบขนมเข้าปาก เราเองรู้ตัวเราดีว่าเวลานี้เราหิวจริงหรือแค่อยากกิน หักห้ามใจตัวเองกันหน่อยนะคะ เจสเชื่อว่าถ้าหยุดกินเพราะเบื่อได้ แล้วอาหารที่เราทานนั้นดีมีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยังไง หุ่นเราก็ดีขึ้นแน่นอน

  1. คุณออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอมากเกินไป
    ใช่ค่ะ การคาร์ดิโอนั้นดีและสามารถช่วยลดมวลไขมันได้ ทั้งยังทำให้หัวใจเราแข็งแรงมากขึ้น แต่การที่เราคาร์ดิโอหนักๆหรือนานๆมากเกินไป เช่น ทำเป็นเวลา 90นาที หรือ ถ้าติดวิ่งยาวๆเป็น 20กิโลเมตร ร่างกายของคุณอาจจะใช้กล้ามเนื้อมาเป็นพลังงานแทนที่จะเป็นไขมัน แล้วการสูญเสียกล้ามเนื้อนั้น อย่างที่เจสเคยพูดอยู่เสมอว่ามันจะทำให้ระบบเผาผลาญต่ำลง แล้วทำให้ร่างกายเคยชินกับการสะสมไขมันเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการออกกำลังกายแบบนานๆ ปัญหาในการลดไขมันของร่างกายเราก็จะเพิ่มมากขึ้น

เพราะฉะนั้น การคาร์ดิโอต้องมีความพอดี แค่วันละไม่เกิน 45นาที-1ชม. หากเป็นการคาร์ดิโอแบบให้อัตราการเต้นหัวใจอยู่ในช่วงเผาผลาญไขมัน หรือแบบหนักเบาสลับกันเป็นเวลาไม่เกิน 30นาทีเพื่อลดการที่ร่างกายของเราจะเอากล้ามเนื้อมาเป็นพลังงาน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาหารด้วยนะคะ เพราะส่วนที่ช่วยลดไขมันได้ดีที่สุดคือการควบคุมอาหารให้ถูกสัดส่วน

  1. คุณไม่ยกน้ำหนักหรือออกกำลังกายแบบเพิ่มแรงต้าน
    สิ่งที่จำเป็นมากอีกอย่างเมื่อเราต้องการลดไขมันคือการออกกำลังกายแบบเพิ่มแรงต้านหรือการยกเวทนั่นเอง
    การสร้างกล้ามเนื้อคือการเพิ่มระบบเผาผลาญในร่างกาย เมื่อระบบเผาผลาญเพิ่มขึ้น ร่างกายก็เบิร์นไขมันมากขึ้น
    แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดกิจกรรมที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือปั่นจักรยาน คุณแค่ต้องเพิ่มการยกเวทเข้าไปในชีวิตประจำวันของคุณเท่านั้นเองค่ะ การออกกำลังกายแบบมีแรงต้านไม่ได้จำเป็นว่าคุณจะต้องมานั่งนับอะไรเป็นเซทๆหรือจำนวนครั้งให้น่าเบื่อเสมอไป คุณสามารถเลือกออกกำลังกายแบบที่มีการใช้แรงต้านมากขึ้น เช่น ครอสฟิต หรือเซอร์กิตเทรนนิ่งที่มีการใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มแรงต้าน ซึ่งก็จะน่าเบื่อน้อยลง แต่เจสก็ชอบเล่นหนักเป็นเซทมากกว่าเพราะสามารถโฟกัสจุดดี จุดด้อยของเราได้ดี แต่ถ้าใครเพิ่งเริ่มมาเวท ลองแบบสนุกๆ เป็นเซอร์กิตก่อนก็ได้นะคะ

แล้วหลายคนมีปัญหาเรื่องการลดไขมันมากๆ เชื่อเถอะค่ะ การเวทจะทำให้คุณประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายทั้งๆที่น้ำหนักของคุณไม่กระดิกเลย รอบเอวคุณจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด สะโพกจะดูผาย สมส่วน กลมได้รูป (แหมะ พูดซะหยั่งกะจะขายของ 555)

  1. คุณออกกำลังกายหนักไม่พอ
    มันไม่มีอะไรตายตัวเกี่ยวกับการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารเพื่อลดไขมัน มันอยู่ที่ว่า สิ่งที่เราทำมันได้ผลสำหรับตัวเรามั้ย การที่ใช้เวลาอยู่ในยิมนานๆ ออกกำลังได้ทั้งวัน ไม่เสมอไปที่หุ่นหรือร่างกายของคนคนนั้นจะฟิตมากกว่าคนที่ออกกำลังกายที่เหมาะสมและถูกต้องแต่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่า นอกจากว่าคุณจะเป็นนักกีฬามาราธอน หรือนักเพาะกาย ปกติแล้วออกกำลังกายแค่วันละไม่เกิน1ชั่วโมงแบบถูกต้องก็สามารถทำให้หุ่นคุณเปลี่ยนแปลงได้แล้ว

เพราะฉะนั้น เลือกโปรแกรมการออกกำลังกายที่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน แต่หนักและมีประสิทธิภาพพอให้ร่างกายเราถูกใช้งานอย่างเต็มที่และมี after burn หรือสามารถเร่งอัตราการเผาผลาญของเราหลังจากเราออกกำลังกายเสร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ (อันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวจากลูกศิษย์คนนึงที่มีเวลาออกแค่ 2วันต่ออาทิตย์ แต่สัดส่วนลงอย่างเห็นชัดมากค่ะ ออกให้ถูกนะคะ ไม่จำเป็นต้องออกนาน)

  1. คุณไม่ให้ร่างกายของคุณพักบ้าง
    ถ้าหากว่าการออกำลังกายของคุณมีประสิทธิภาพจริง คุณจะสามารถรู้สึกถึงอาการล้าของกล้ามเนื้อและร่างกาย คุณจึงต้องเปลี่ยนมาเล่นกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่ยังไม่ได้ถูกใช้งาน แล้วปล่อยให้กล้ามเนื้อส่วนที่ล้าได้พักและเกิดการเจริญเติบโตเพื่อให้แข็งแรงมากขึ้น หรือถ้าหากคุณออกกำลังกายแบบใช้กล้ามเนื้อทุกส่วน ในวันต่อมาก็อาจจะแค่ออกแบบเบาๆหรือทำการยืดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย
    การมีวันพักสำคัญมากกว่าการออกกำลังกายอีกนะคะ เพราะเป็นเป็นวันที่ร่างกายของคุณได้ซ่อมแซมตัวเอง เพื่อที่ครั้งต่อไป ร่างกายคุณจะแข็งแรงขึ้นและออกกำลังได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม แล้วนั่นก็หมายความว่าร่างกายคุณจะเผาผลาญไขมันได้มากกว่าเดิมเช่นเดียวกัน
    ถ้าทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าแล้ว ก็ต้องรักเค้าด้วยนะคะ ฟังร่างกายตัวเอง อย่าฝืนเพราะความรีบหรืออยากจะลดน้ำหนักเร็วๆ เพราะมันจะทำให้ยิ่งแย่ลงและยากขึ้นค่ะ
  2. ร่างกายของคุณเครียดเกินไป
    การที่เราออกกำลังกาย มันทำให้ร่างกายเราตึงเครียด ถ้าเราสามารถบาลานส์วันออกกำลังกายและวันพักได้ ร่างกายเราจะเผาผลาญไขมันได้ดีมากขึ้น ถ้าคุณยิ่งเครียดกับการออกกำลังกายเพราะอยากจะลดเร็วๆ ร่างกายก็จะยิ่งหลั่งสาร Cortisol ออกมา ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ทำให้เราเผาผลาญน้อยลง แต่จริงๆแล้วมันจะสำคัญแค่เวลาที่เราออกกำลังกายเพราะมันสร้างพลังให้กับกล้ามเนื้อของเรา

การที่ร่างกายเรามีการหลั่งสาร cortisol ออกมาเป็นระยะเวลานาน มันจะมีผลกระทบด้านลบต่อร่างกาย คือไขมันที่เผาผลาญออกยากก็จะยิ่งยากมากขึ้น ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเท่านั้นที่สร้างความเครียดให้กับร่างกายแล้วจึงหลั่งสาร cortisol แต่การที่เราเครียดกับการทำงานหรือชีวิต หรือไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการลดน้ำหนัก ก็สามารถทำให้ร่างกายหลั่งสาร cortisol ออกมาได้มากเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น อย่าเครียดกับการลดน้ำหนัก หรือการหักโหมออกกำลังกายเพราะอยากลดเร็วๆมากเกินไปนะคะ สนุกกับมันให้มากที่สุด แล้วเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของหุ่นเราในเร็ววันแน่นอนค่ะ ^_^

 

ขอบคุณที่มาจาก : jessicacuny.com

Facebook Comments

Check Also

ลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร อย่างไร ให้ไม่โทรม ไม่เกิดโยโย่ และอันตรายต่อร่างกาย

ลดน้ำหนัก กี่คร …