9 สิ่งที่เทรนเนอร์ฟิตเนสไม่เคยบอกให้คุณรู้ !

 

9 เรื่องพื้นฐานในการออกกำลังให้ได้ผล ที่เทรนเนอร์ฟิตเนสอาจไม่ได้แนะนำให้มือใหม่หัดออกกำลังทราบ

 

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังอย่างจริงจังที่ฟิตเนสนั้น เราเชื่อว่าส่วนใหญ่จะเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะเริ่มเล่นตรงไหนก่อน กระทั่งลงทุนจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวตามฟิตเนสมาช่วยให้คำแนะนำการออกกำลังที่เหมาะสมให้ ทว่าปัญหาที่พบตามมาคือมีเทรนเนอร์ฟิตเนสบางคน ไม่ได้ให้ความรู้ที่ถูกวิธีกับคุณ ซึ่งผลที่ตามมาคือเหนื่อยฟรีและเสียเงินจ้างโดยใช่เหตุด้วย เราเลยนำสิ่งที่คุณควรรู้แต่ไม่เคยรู้จากเทรนเนอร์โดยเว็บไซต์ mensxp มาบอกต่อกันด้วยครับ

 

อย่าออกกำลังเมื่อป่วย

คนที่ออกกำลังใหม่ ๆ มักไฟแรง อยากจะมาออกกำลังเรียกเหงื่อให้ได้ แม้กระทั่งในวันที่ป่วยอยู่ แต่หารู้ไม่ว่าถึงมาออกกำลัง กล้ามเนื้อก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่อยู่ดี เผลอ ๆ อีกวันอาการคุณกลับยิ่งทรุดหนักยิ่งขึ้นไปอีก แต่ที่แย่กว่านั้นคือคุณอาจแพร่เชื้อจนทำให้ผู้มาใช้บริการคนอื่น ๆ ติดหวัดจากคุณได้น่ะสิ

ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ให้ครบทุกชนิดก็ได้

อ๊ะ อ๊ะ อย่าคิดว่าเทรนเนอร์ที่บอกให้คุณเที่ยวออกกำลังกับอุปกรณ์ทุกชนิดในฟิตเนสนั้นคือเทรนเนอร์ที่ดี เพราะอาจทำให้คุณไปไม่ถึงเป้าหมายในการออกกำลังของตัวเองได้ เช่น บางคนมีเป้าหมายที่จะลดน้ำหนัก แต่กลับแนะนำให้ยกเวทหนัก ๆ ทุกครั้ง แทนที่จะให้คาร์ดิโอเบิร์นไขมันส่วนเกินออก เป็นต้น ซึ่งเทรนเนอร์ที่ดีจะต้องวางแผนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ

ยิ่งเจ็บปวดแสดงว่าได้ผล…ก็ไม่ใช่เสมอไป

เทรนเนอร์หลายคนบอกว่าเวลาที่ออกกำลังแล้ววันต่อมารู้สึกตึง ๆ ปวด ๆ ที่กล้ามเนื้อ แสดงว่าการออกกำลังได้ผล เลยพยายามออกให้หนักมากยิ่งขึ้นคือวิธีที่ถูกต้องแล้ว ทว่าความจริงมันอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปนะ ร่างกายเรา ๆ ย่อมรู้ดีว่าหนักขนาดไหนถึงจะพอดี แบบไหนที่เรียกว่าฝืน เพราะเทรนเนอร์เขาไม่รู้หรอกว่ากล้ามเนื้อคุณต้องแบกรับความเจ็บปวดไว้มากขนาดไหน อย่าลืมว่าความแข็งแกร่งของคนเรามันไม่เท่ากันนะ

กินเนื้อสัตว์เพื่อโปรตีน ดีกว่ากินอาหารเสริมเป็นไหน ๆ

แน่นอนว่าบรรดาอาหารเสริมต่าง ๆ มีผลทำให้กล้ามเนื้อที่คุณพยายามปั้นเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ซึ่งเทรนเนอร์ฟิตเนสส่วนใหญ่ก็คงแนะนำให้กินอาหารเสริมเหล่านี้ แทนที่จะกินอาหารที่มีโปรตีน (ส่วนหนึ่งก็เพราะความสะดวกด้วยแหละ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โปรดจำไว้เถอะว่าไม่มีอาหารเสริมชนิดไหน ที่ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายได้ครบถ้วน เท่ากับอาหารที่เรากินกันทุกวันหรอกครับ แถมอร่อยกว่าด้วย

ควรหาชุดหรืออุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับฟิตเนส

บางคนอาจจะมองว่าการเสียเงินไปกับชุดและอุปกรณ์ออกกำลังเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย แต่ความจริงแล้วการมีชุดและอุปกรณ์ที่พร้อมสำหรับออกกำลังนั้นเป็นสิ่งที่เทรนเนอร์ควรแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อความคล่องตัวและซัพพอร์ทร่างกาย ป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้

ไม่จำเป็นต้องเน้นออกกำลังเฉพาะหน้าท้อง

จริงอยู่ว่าการออกกำลังด้วยการซิทอัพหรือทำท่า Crunches คือสิ่งที่ขาดไม่ได้หากอยากมีซิกแพค ซึ่งเทรนเนอร์แทบทุกคนคงจี้ให้คุณออกกำลังในท่านี้เพื่อขจัดพุงให้สิ้นซาก แต่เอาเข้าจริง ๆ ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสกับการมีซิกแพคจนเกินไป ก็สามารถออกกำลังในท่าที่กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายต้องออกแรงก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะมันจะช่วยให้รูปร่างได้สัดส่วน ไม่เฉพาะแค่หน้าท้องเท่านั้น อ้อ การควบคุมอาหารมีผลต่อการลดพุงมาก ๆ เช่นกันนะ

ที่ถูกคือ Chest-up ไม่ใช่ Chin-up

ท่าออกกำลังที่สร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกาย โดยเฉพาะช่วงอกและหลังได้มาก ๆ คงต้องยกให้ท่า Push-up และ Chin-up หรือจริง ๆ ควรเรียกว่า Chest-up มากกว่า เนื่องจากที่ถูกต้องคือคุณต้องยกหน้าอก (ไม่ใช่ยกคาง) ให้อยู่ในระดับเดียวกับบาร์โหน

ท่าวิดพื้นที่ถูกวิธีคือกุญแจสำคัญ

เมื่อพูดถึงท่าวิดพื้น เราคงนึกถึงการนอนคว่ำลงกับพื้นแล้วใช้ฝ่ามือดันตัวขึ้นลงใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าจะให้ถูกหลักและให้การบริหารร่างกายในท่านี้ถูกต้อง ควรใช้มือจับเคตเทิลเบลหรือดัมเบลที่ตั้งอยู่บนพื้น แทนการใช้ฝ่ามือดันตัวขึ้นลงจะดีกว่า เพราะข้อมือคุณอาจจะรู้สึกตึงเกินไป

ออกแรงให้มากและเร็ว ดีกว่ายืดเยื้อแต่ไม่ได้อะไรเลย

อย่าเพิ่งคิดว่าคนที่ใช้เวลาอยู่ในฟิตเนสนาน ๆ นั้นจะมีร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์เสมอไป เพราะบางคนกลับง่วนอยู่กับการถ่ายเซลฟี่ นั่งเม้าท์มอย ไม่ก็มัวแต่จีบสาวอยู่นั่นแหละ ออกกำลังกายจริง ๆ แค่ไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ สู้คุณโฟกัสอยู่กับการออกกำลังให้เต็มที่ ไม่พักเหนื่อยนาน แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นต่อดีกว่า

 

 

ขอบคุณที่มาจาก : kapook.com