วันพุธ , ตุลาคม 16 2024
Breaking News
Home / ลดน้ำหนัก / 9วิธีลดน้ำหนักแบบไม่อด ไม่ออกกำลังกายหนัก

9วิธีลดน้ำหนักแบบไม่อด ไม่ออกกำลังกายหนัก

หลายคนอาจคิดว่าการลดน้ำหนักต้องอาศัยการออกกำลังกายหนักๆ และการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด แต่จริงๆ แล้วมีวิธีง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้โดยไม่ต้องทรมานตัวเองมากนักค่ะ การยึดติดกับแผนการลดน้ำหนักที่ซับซ้อนอาจเป็นเรื่องยาก แต่มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยให้คุณลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับลงได้อย่างง่ายดาย และวิธีเหล่านี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักกลับมาเพิ่มขึ้นอีกด้วย และนี่คือ วิธีลดน้ำหนัก ได้จริงแบบไม่ต้องอดอาหาร หรือออกกำลังกายหนัก

9 วิธีลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องอดอาหาร ออกกำลังกายหนัก

1.เคี้ยวอาหารช้าๆ ถึงช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ

คำตอบก็คือสมองของเรามีเวลาในการประมวลผลว่าร่างกายได้รับอาหารเพียงพอแล้วนั่นเองค่ะ เมื่อเราเคี้ยวอาหารช้าๆ และละเอียด จะทำให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และกินอาหารในปริมาณที่น้อยลงตามไปด้วย

ทำไมการเคี้ยวช้าๆ ถึงสำคัญ

  • สมองรับรู้ความอิ่มช้า: สมองของเราใช้เวลาในการส่งสัญญาณความอิ่มไปยังร่างกาย การเคี้ยวช้าๆ ทำให้สมองมีเวลาประมวลผลได้ทัน ก่อนที่เราจะกินอาหารมากเกินไป
  • กินน้อยลง: การเคี้ยวช้าๆ ทำให้เราใช้เวลากินนานขึ้น ส่งผลให้กินอาหารได้น้อยลงโดยไม่รู้ตัว
  • ย่อยอาหารง่ายขึ้น: การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ลดภาระของกระเพาะอาหาร และช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.เลือกจานให้เหมาะกับอาหาร ลดน้ำหนักได้ง่ายๆ

เคยสังเกตไหมคะว่า จานอาหารสมัยนี้ดูใหญ่ขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย นั่นอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักเราเพิ่มขึ้นก็ได้นะ เพราะจานใหญ่ๆ ทำให้เราตักอาหารได้เยอะขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทำไมจานใหญ่ถึงทำให้อ้วน?

  • หลอกตาให้คิดว่ากินน้อย: จานใหญ่ทำให้ปริมาณอาหารที่เราตักดูน้อยลง ทำให้เราตักเพิ่มอีกโดยไม่รู้ตัว
  • กินเกินความจำเป็น: เมื่อเราเห็นจานว่าง เรามักจะตักอาหารเพิ่มเข้าไปอีก ทั้งๆ ที่ร่างกายอาจไม่ต้องการแล้ว

3.โปรตีนตัวช่วยลดน้ำหนักที่ขาดไม่ได้

โปรตีน นั้นมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนักเลยนะคะ เพราะโปรตีนช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหาร และทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง

ทำไมโปรตีนถึงช่วยลดน้ำหนักได้

  • ควบคุมฮอร์โมนความหิว: โปรตีนส่งผลต่อฮอร์โมนที่ควบคุมความหิวและความอิ่ม เช่น เกรลิน (Ghrelin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิว และเปปไทด์คล้ายกลูคากอน (GLP-1) ซึ่งช่วยลดความหิว ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น
  • เผาผลาญแคลอรี่สูง: การย่อยโปรตีนใช้พลังงานมากกว่าการย่อยคาร์โบไฮเดรต ทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น
  • สร้างกล้ามเนื้อ: โปรตีนเป็นส่วนประกอบหลักของกล้ามเนื้อ การทานโปรตีนเพียงพอจะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายแข็งแรงและเผาผลาญแคลอรี่ได้ดีขึ้น

4.ทำอาหารเองที่บ้าน ดีต่อสุขภาพและหุ่นสวย

การทำอาหารทานเองที่บ้าน นอกจากจะเป็นการประหยัดเงินแล้ว ยังเป็นวิธีที่ดีในการดูแลสุขภาพและควบคุมน้ำหนักอีกด้วย เพราะเราสามารถเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณค่าทางโภชนาการได้ตามต้องการ

ทำไมการทำอาหารเองถึงดีต่อสุขภาพ

  • ควบคุมปริมาณโซเดียมและน้ำตาล: อาหารที่ทำเอง เราสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมและน้ำตาลได้ ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวาน
  • เลือกวัตถุดิบได้เอง: เราสามารถเลือกวัตุดิบที่สดใหม่ มีคุณภาพ และเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายได้
  • ลดค่าใช้จ่าย: การทำอาหารเองจะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการซื้ออาหารสำเร็จรูป

5.เส้นใยอาหาร: พันธมิตรคนสำคัญในการลดน้ำหนัก

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมการกินผักผลไม้ถึงช่วยให้เรารู้สึกอิ่มได้นาน? คำตอบก็คือ เส้นใยอาหาร นั่นเอง เส้นใยอาหารเป็นส่วนประกอบสำคัญในพืชพรรณต่างๆ ที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยได้ แต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการควบคุมน้ำหนัก

ทำไมเส้นใยอาหารถึงช่วยลดน้ำหนัก

  • เพิ่มความอิ่ม: เส้นใยอาหารจะดูดซับน้ำ ทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น และกินอาหารได้น้อยลง
  • ชะลอการดูดซึมน้ำตาล: เส้นใยชนิดที่ละลายน้ำได้จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และลดความอยากอาหาร
  • ปรับปรุงการทำงานของลำไส้: เส้นใยอาหารช่วยเพิ่มปริมาณกากในลำไส้ ทำให้การขับถ่ายเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก และช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับลำไส้

เส้นใยหนืด ตัวช่วยลดน้ำหนักตัวจริง

เส้นใยหนืดเป็นชนิดหนึ่งของเส้นใยอาหารที่มีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำและเกิดเป็นเจล ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น และลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับ ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นที่สนับสนุนว่าเส้นใยหนืดมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

อาหารที่มีเส้นใยหนืดสูง

  • ธัญพืช: ข้าวโอ๊ต, ข้าวกล้อง
  • ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วเลนทิล, ถั่วดำ, เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์
  • ผัก: กะหล่ำดาว, บร็อคโคลี, หน่อไม้ฝรั่ง
  • ผลไม้: ส้ม, แอปเปิ้ล, กล้วย

6.ดื่มน้ำเปล่าช่วยลดน้ำหนัก

ใครจะรู้ว่าแค่การดื่มน้ำเปล่า ก็ช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ด้วย! การดื่มน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหาร จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วขึ้น และกินอาหารได้น้อยลง

ทำไมการดื่มน้ำถึงช่วยลดน้ำหนัก

  • ลดความอยากอาหาร: การดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร จะช่วยให้กระเพาะอาหารรู้สึกอิ่ม ทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
  • เพิ่มอัตราการเผาผลาญ: การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
  • ช่วยในการขับถ่าย: น้ำช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูก และลดการสะสมของของเสียในร่างกาย

7.กินแบบมีสติ ลดน้ำหนักได้ง่ายๆ

เคยสังเกตไหมคะว่า เวลาเรากินข้าวไปดูทีวีไป เรากินไปได้เยอะมากโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อเราไม่ได้ให้ความสนใจกับอาหารที่กำลังกินอยู่ สมองของเราจะไม่รับรู้ถึงความอิ่ม ทำให้เราทานอาหารเกินความจำเป็นไปได้

ทำไมการกินขณะดูทีวีถึงทำให้อ้วน

  • ไม่รู้สึกอิ่ม: เมื่อเราไม่สนใจอาหารที่กำลังกินอยู่ สมองจะไม่ส่งสัญญาณความอิ่มมา ทำให้เรากินอาหารได้เรื่อยๆ
  • กินมากเกินไป: การกินขณะดูทีวีทำให้เราไม่รู้ตัวว่ากินไปเท่าไรแล้ว อาจทำให้กินมากกว่าปกติ
  • เลือกอาหารไม่ดี: เมื่อเราไม่สนใจอาหารที่กินอยู่ เราอาจเลือกทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ขนมขบเคี้ยว หรืออาหารที่มีไขมันสูง

งานวิจัยสนับสนุน

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่าคนที่กินข้าวไปดูทีวีไป จะกินอาหารมากกว่าคนที่กินข้าวโดยไม่ทำอย่างอื่น และมีแนวโน้มที่จะอ้วนมากกว่า

8.นอนหลับสบายและหลีกเลี่ยงความเครียด

เมื่อพูดถึงเรื่องสุขภาพ ผู้คนมักละเลยการนอนหลับและความเครียด ทั้งสองอย่างมีผลอย่างมากต่อความอยากอาหารและน้ำหนักของคุณ การอดนอนอาจรบกวนฮอร์โมนเลปตินและเกรลินที่ควบคุมความอยากอาหาร คอร์ติซอลฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งจะสูงขึ้นเมื่อคุณเครียด การมีฮอร์โมนเหล่านี้ผันผวนสามารถเพิ่มความหิวและความอยากอาหารของคุณได้ ส่งผลให้ได้รับแคลอรี่มากขึ้น

9.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มหวานเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคภัยหลายชนิด โดยเฉพาะโรคหัวใจและเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากน้ำตาลในเครื่องดื่มเหล่านี้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างฉับพลัน ที่น่ากังวลยิ่งกว่านั้นคือ แคลอรี่จากเครื่องดื่มหวานมักไม่ทำให้เรารู้สึกอิ่มเท่ากับอาหารแข็ง จึงทำให้เราบริโภคแคลอรี่เกินความจำเป็นได้ง่ายขึ้น

การลดปริมาณเครื่องดื่มหวานเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการควบคุมน้ำหนัก หลายงานวิจัยพบว่า การเปลี่ยนจากเครื่องดื่มหวานมาดื่มน้ำเปล่า กาแฟ หรือชาเขียว (ไม่ใส่น้ำตาลหรือใส่น้ำตาลเพียงเล็กน้อย) ช่วยลดน้ำหนัก ลดค่าดัชนีมวลกาย และลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายได้อย่างชัดเจน

ที่มา : sanook.com

Facebook Comments

Check Also

“น้ำยาปรับผ้านุ่ม” กับ 7 ผลกระทบที่ดูแล้วคิดหนัก ว่าควรใช้ต่อหรือพอก่อน

น้ำยาปรับผ้านุ่ …