ใช่ว่าการออกกำลังกายเพื่อลดนํ้าหนักหรือออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความฟิตต้องทุ่มแรง ทุ่มทั้งร่างเสมอไป เพราะสำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือสูงอายุแล้ว หรือแม้กระทั่งวัยทำงานเองจะให้มาออกกำลังกายแบบมีแรงกระแทกต่อเข่ารัว ๆ ก็คงไม่ค่อยไหว แต่แล้ววิธีออกกำลังกายแบบไหนดีล่ะที่จะช่วยเราลดแรงกระแทก ให้เราออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ลดน้ำหนักได้ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและฟิตสุขภาพได้ในคราวเดียวกัน คำตอบคือการออกกำลังกายแบบ Low Impact ไงล่ะคะ และวันนี้กระปุกดอทคอมก็มีวิธีออกกำลังกายแบบ Low Impact มาแชร์ด้วย ตามนี้เลยจ้า

1.เดินออกกำลังกาย
เชื่อไหมคะว่าแค่ตั้งใจเดินให้มากขึ้นกว่าปกติ นี่ก็เป็นวิธีออกกำลังกายที่ช่วยฟิตสุขภาพเราอย่างมากมายแล้ว โดยคนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย อาจจะลองเดินออกกำลังกายวันละ 10 นาทีในช่วงแรก ๆ แล้วค่อยท้าทายตัวเองให้เดินนานขึ้นในทุกสัปดาห์ เช่น จาก 10 นาที เป็น 20 นาที เรื่อย ๆ ไปจนเดินได้เป็นชั่วโมง ซึ่งการพัฒนาตัวเองแบบนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายคุ้นชินกับการออกกำลังกาย ระบบเผาผลาญเริ่มทำงานอย่างเป็นระบบมากขึ้น ยิ่งหากเราเพิ่มลูกเล่นให้การเดินเป็นเดินช้าสลับเร็ว เดินขึ้น-ลงบันไดก็จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญมากขึ้นไปอีกด้วยนะ ที่สำคัญการเดินยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ไม่ค่อยมีแรงกระแทกต่อเข่ามากนักอีกต่างหาก

2.โยคะ
โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เหนื่อยมาก ไม่ต้องออกแรงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะทั้งช่วยฝึกสมาธิ ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อต่าง ๆ เพิ่มความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกายได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยคลายเครียดได้อีกด้วยล่ะ

3.ปั่นจักรยาน
ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยานบนเครื่องเล่นหรือการปั่นจักรยานจริง ๆ ก็ช่วยเราเบิร์นแคลอรีได้ทั้งนั้น โดยที่เท้าแทบไม่ต้องแตะพื้นเลยค่ะ และการปั่นจักรยานยังช่วยคลายเครียดได้ด้วยนะ โดยเฉพาะการปั่นจักรยานไปด้วยสูดอากาศและดูวิวรายทางไปด้วย คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการออกกำลังกายโดยที่ลืมคิดถึงความเหนื่อย ความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อไปเลย

4.ว่ายน้ำ
นี่ก็เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ช่วยลดน้ำหนักได้ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและปอดได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องแรงกระแทก เพราะน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัวของเราเอาไว้ ในขณะที่การเคลื่อนไหวร่างกายในน้ำก็จะเกิดแรงต้านทาน เปิดโอกาสให้เราได้ออกแรงมากขึ้นไปด้วย ใครที่ไม่ชอบเหงื่อชุ่ม ๆ ในระหว่างออกกำลังกายลองว่ายน้ำก็ดีนะคะ

5.เซอร์กิตเทรนนิ่ง
เซอร์กิตเทรนนิ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่างเวทเทรนนิ่งและการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ โดยเป็นการออกกำลังกายหลาย ๆ ท่า โดยหยุดพักระหว่างท่าให้น้อย ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจไต่ถึงระดับเผาผลาญไขมันได้อย่างรวดเร็วและมีความต่อเนื่อง และการออกกำลังกายแบบเซอร์กิตเทรนนิ่งยังนับเป็นการออกกำลังกายครบวงจร ที่ช่วยให้เราได้ฟิต แอนด์ เฟิร์มได้หลายสัดส่วนในคราวเดียวกัน โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก ๆ ให้เสี่ยงต่อเข่าและข้อต่อ

6.วิ่งบนเครื่องเดินวงรี (Elliptical)
สำหรับคนที่สังขารไม่ให้ แต่ใจยังอยากวิ่ง แนะนำให้ไปวิ่งบนเครื่องเดินวงรี หรือเครื่องออกกำลังกาย Elliptical เลยค่ะ วิ่งวนไปให้ได้นานที่สุด หรืออย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 30 นาที และหากอยากให้การออกกำลังกายครั้งนี้มีคุณภาพมากขึ้นก็ลองปรับเพิ่มแรงต้านทานให้มากขึ้นได้ ท้าทายตัวเองไปอีกแบบ

7.ยกเคตเทิลเบล (Kettlebell)
เคตเทิลเบลเป็นอุปกรณ์ยกน้ำหนักชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์กับการออกกำลังกายมาก โดยเว็บไซต์ Health ได้อ้างงานวิจัยที่เผยว่า การยกเคตเทิลเบลเป็นประจำก็ช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจไต่ถึงระดับเบิร์นไขมันได้ประมาณ 12.5 กิโลแคลอรีต่อนาที หรือเบิร์นไขมันได้เทียบเท่ากับการจ๊อกกิ้ง แถมยังช่วยเสริมความเข็งแรงของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไม่ต้องใช้แรงกระแทกใด ๆ ให้เสี่ยงต่อข้อและเข่าเลย

8.ออกกำลังกายแบบ Barre
สำหรับคนที่อยากเพิ่มความสมดุลของร่างกาย และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อไปด้วยในตัว แนะนำให้ลอง Barre เลยค่ะ เพราะ Barre เป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานทั้งบัลเลย์ โยคะ พิลาทิส และท่ายืดหยุ่นกล้ามเนื้อเข้าด้วยกัน ซึ่งจะให้ผลดีทั้งในเรื่องเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และบุคลิกภาพที่สวยงาม โดยการออกกำลังกายแบบ Barre จะใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายเป็นบาร์ เสื่อโยคะ ดัมเบล หรือหากออกกำลังกายที่บ้านก็สามารถใช้เก้าอี้แทนบาร์ได้
คราวนี้เราก็จะไม่มีข้ออ้างแนว ๆ ว่าน้ำหนักตัวเยอะ ออกกำลังกายลำบาก ข้อเข่าไม่ดี ออกกำลังกายไม่ค่อยได้กันอีกแล้วเนอะ เพราะ 8 วิธีนี้แหละที่จะช่วยให้คุณได้ออกกำลังกายอย่างปลอดภัยต่อข้อเข่าและกระดูก
ที่มา : health.kapook.com
Facebook Comments