ปัจจุบันมีแพทย์และนักวิจัยหลายคนเริ่มให้ความสนใจและศึกษาวิธีที่ผู้หญิงจะผ่านช่วง “วัยทอง” ได้อย่างสบายใจและมีสุขภาพดีมากขึ้น โดยคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับวิถีชีวิตที่แพร่หลายในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาสตรีวัยหมดประจำเดือนและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพอื่นๆ ที่ผ่านประสบการณ์รักษาผู้หญิงในช่วงวัยนี้ก็คือ เน้นที่การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, รับประทานโปรตีนและใยอาหาร (ไฟเบอร์) ให้มากขึ้น

การผสมผสานข้อปฏิบัติทั้งสามอย่างนี้ถือว่าดีต่อสุขภาพอย่างมาก และเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงควรทำตามก่อนจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนอย่างเต็มตัว เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายอันเนื่องจากระดับฮอร์โมนต่าง ๆ
“ไม่ว่าจะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนหรือไม่ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าผู้คนจะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อประมาณ 5% ทุกๆ 10 ปี หลังจากอายุ 30 ปี” อัลเบิร์ต แมเทอนีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับสภาพและความแข็งแรงของร่างกายและผู้ก่อตั้งร่วมของโซโห สเตรนจ์แล็บ ให้ข้อมูล “การฝึกความแข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเริ่มต้นฝึกหรือรักษาไว้ไม่ว่าจะอายุเท่าไรก็ตาม เพื่อช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและ/หรือลดการสูญเสียให้น้อยที่สุด”
มีรายงานการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วยปรับปรุงสมดุลของร่างกายให้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการหกล้ม และปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมเมื่อเราอายุมากขึ้น

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะแนวทางการออกกำลังกายสำหรับชาวอเมริกันแนะนำว่า ผู้ใหญ่ควรทำกิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์ นอกเหนือจากการทำกิจกรรมทางกายที่มีความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ โดยการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเหล่านี้ควรเน้นที่กลุ่มกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน
“โปรตีนมีบทบาทสำคัญที่สุดในการรักษามวลกล้ามเนื้อและยังมีส่วนสร้างความแข็งแรงให้สุขภาพหัวใจและกระดูกอีกด้วย” ดร. เจสสิกา เชพเพิร์ด สูตินรีแพทย์ในเท็กซัสกล่าว เพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของการบริโภคโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม
ดร. เชพเพิร์ดชี้ว่า ผู้หญิงในช่วงวัยหมดประจำเดือนต้องได้รับโปรตีนในปริมาณ 1.5-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น คนที่มีน้ำหนักตัว 68 กก. ควรได้รับโปรตีน 102 – 136 กรัมต่อวัน ทั้งนี้ เนื้อไก่ 85 กรัม จะมีโปรตีน 23-26 กรัม ในขณะที่ไข่ลวก 1 ฟองมีโปรตีนประมาณ 6 กรัม

เมื่อมาถึงเรื่องของใยอาหารหรือไฟเบอร์ ดร. เชพเพิร์ดกล่าวว่า “ใยอาหารมีความจำเป็นต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ที่แข็งแรง สุขภาพหัวใจที่ดี และยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย” นอกจากนี้ ใยอาหารยังช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนหรือมีอายุมากขึ้น
สำหรับแนวทางโภชนาการสำหรับชาวอเมริกันนั้น มีการแนะนำให้บริโภคใยอาหาร 14 กรัมต่ออาหารทุก ๆ 1,000 แคลอรี ซึ่งเท่ากับ 25 กรัมสำหรับผู้หญิงและ 38 กรัมสำหรับผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี เมื่ออายุเลยจากนั้น จะแนะนำให้รับประทานใยอาหารเพียง 22 กรัมสำหรับผู้หญิงและ 28 กรัมสำหรับผู้ชาย
ที่มา : dailynews.co.th
Facebook Comments