วันพุธ , ตุลาคม 16 2024
Breaking News
Home / ฟิตเนส / การเลือกซื้อลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้าน

การเลือกซื้อลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้าน


ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นเครื่องออกกำลังกายสำหรับคาร์ดิโอที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นการวิ่งเป็นการออกกำลังกายพื้นฐานที่ทุกคนคุ้นเคย และทำได้โดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม นอกจากการเรียนรู้วิธีใช้งานลู่วิ่งเท่านั้นเอง


ในสมัยก่อนลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ราคาสูง ตั้งแต่ 2 หมื่นกว่า ถึง หลักแสน โดยปกติเราจะใช้ลู่วิ่งในยิม หรือ ศูนย์ฟิตเนสต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็น ของโรงเรียน ขององค์กร หรือ ของศูนย์ฟิตเนสที่ต้องเสียค่าสมาชิก แต่ในปัจจุบัน เราสามารถซื้อลู่วิ่งมาใช้เองที่บ้าน ได้ในราคา ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท และ มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งาน ในบ้าน    การใช้ลู่วิ่งในบ้าน เราไม่จำเป็นต้องซื้อลู่วิ่งที่มีขนาดใหญ่ และราคาแพงเกินความจำเป็น เนื่องจากมีการใช้งานน้อย เพียง2-3 คน ดังนั้นเราจึงควรเลือกลู่วิ่งที่ เหมาะสมและคุ้มค่า  

เรามาดูวิธีการเลือกซื้อลู่วิ่งสำหรับใช้ในบ้านกัน

–          การรับน้ำหนัก – สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกซื้อเลือกวิ่งที่ต้องคำนึงอันดับแรกคือ การรับน้ำหนักของเครื่อง การใช้งานลู่วิ่งที่เกินน้ำหนักที่กำหนด จะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้เร็ว และไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน  เราควรเลือกเครื่องสามารถรองรับน้ำหนักของเราได้เพียงพอ และเผื่อการรับน้ำหนักไว้ 10-15 กก.  หากเรามีน้ำหนักค่อนข้างมาก ให้ใช้วิธีการเดินเร็วเพื่อลดแรงกะแทก จนกระทั่งน้ำหนักของเราลดลง ในระดับที่สามารถใช้งานลู่วิ่งได้เต็มที่ จึงวิ่งได้ตามต้องการ

–          ความเร็วสูงสุดของลู่วิ่งไฟฟ้า  คือความเร็วการเคลื่อนของสายพาน อีกนัยก็คือความเร็วที่เราจะวิ่งบนลู่วิ่งนั้นเอง ซึ่งความเร็วสูงสุดนั้นจะสัมพันธ์กับกำลังขับของมอเตอร์

ลู่วิ่ง ขนาด 1 HP สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ลู่วิ่ง ขนาด 1.5 HP สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ลู่วิ่ง ขนาด 2.0 HP สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

ลู่วิ่ง ขนาด 3.0 HP สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

–          แรงม้า House power (HP) คือกำลังขับของมอเตอร์ไฟฟ้า ลู่วิ่งที่สำหรับใช้ในบ้าน ใช้แรงม้า 1-2 HP ก็เพียงพอต่อการใช้งาน เนื่องจาก จำนวนสมาชิกในบ้านหรือผู้ใช้งานไม่ได้มากเท่ากับในศูนย์ฟิตเนสซึ่งต้องใช้มอเตอร์ขนาด 3-4 HP เพราะแรงม้าที่มาก จะต้องใช้มอเตอร์ขนาดใหญ่ ที่กินไฟมากกว่า และค่าซ่อมที่สูงกว่า นอกจากนี้ราคาก็จะสูงกว่าค่อนข้างมาก

อย่าเปรียบเทียบแค่แรงม้า!!! เพราะเกือบทุกร้านจะบอกขนาดแรงม้า เกินจริง และไม่สามารถตรวจสอบได้ ควรดูที่ความเร็วสูงสุดเป็นหลักเพราะลูกค้าสามารถเช็คได้จากเครื่อง

หากดูที่ความจำเป็นแล้ว ความเร็วสูงสุดในการวิ่งออกกำลังกายทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 8-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้น ลู่วิ่ง ขนาดเล็ก ก็ความเร็วที่เพียงพอต่อการใช้งาน  ความเร็วที่มากกว่า 14 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในลู่วิ่งขนาดใหญ่จะใช้สำหรับการเทรนนิ่ง สำหรับนักกีฬามากกว่าความจำเป็นโดยทั่วไป

–          พื้นที่วิ่งหรือขนาดของสายพาน คือ ความกว้างและยาวของสายพานที่เป็นพื้นที่ในการวิ่งนั้นเอง  ขนาดของพื้นที่วิ่ง ที่ใหญ่จะเพิ่มความรู้สึกสบายในการวิ่ง แต่ราคาก็จะแพงตามเพราะลู่วิ่งก็จะมีขนาดใหญ่ตาม  ขนาดโดยทั่วไป จะอยู่ที่ความกว้างของสายพาน ประมาณ 40-48 ซม.

–          การปรับความชัน ลู่วิ่งที่ราคาสูงจะปรับความชันได้ ทำให้เราได้ออกกำลังมากกว่าการวิ่งบนทางราบ  แคลลอรี่หรือพลังงานที่ใช้ในการวิ่งจะขึ้นอยู่กับความเร็ว ความชันและเวลาในการวิ่ง ดังนั้น ลู่วิ่งที่ปรับความชันได้จะทำให้เราใช้พลังงานในการออกกำลังกายมากขึ้น ในเวลาและความเร็วที่เท่ากัน แต่ลู่วิ่งที่ปรับความชันได้จะมีราคาสูงขึ้น 3000-8000 บาท  ดังนั้นหากเราใช้ลู่วิ่งที่ปรับความชันไม่ได้ เราอาจจะเพิ่มความเร็วหรือเวลาในการวิ่ง เท่านั้นเอง

แต่สำหรับผู้มีปัญหาการวิ่ง เช่น ผู้สูงอายุ ข้อเข่า ข้อเท้า อักเสบ จำเป็นต้องใช้ระบบปรับความชันไฟฟ้าช่วยเพื่อให้การเดินเร็ว ลดแรงกระแทก แต่ความชันจะช่วยให้ ออกกำลังในอัตราที่เท่ากับการวิ่ง

–          ฟังชั่นต่างๆบนหน้าจอ ลู่วิ่งโดยทั่วไปจะมีฟังชั่นบนหน้าจอคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงแคลอรี่ เวลา ความเร็ว ระยะทาง ความชัน  การปรับต่าต่างๆที่จำเป็น เช่น ความเร็ว ความชัน  ที่เพิ่มเติม อาทิเช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือ  โปรแกรมการวิ่งอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ตั้งมาไว้ ให้เราวิ่งตามเวลา ความเร็ว ที่กำหนด โดยไม่ต้องปรับค่าต่างๆเอง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น

นอกจากคุณสมบัติต่างๆของเครื่องลู่วิ่งไฟฟ้าแล้ว เราควรคำนึงถึง ราคา และความเหมาะสม แน่นอนว่า ลู่วิ่งขนาดใหญ่ที่เกินความจำเป็นมาพร้อมกับราคาที่สูงและค่าซ่อมที่สูงตาม นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงพื้นที่ว่างภายในบ้านอีกด้วย 

เนื่องจากปัจจุบัน การขายออนไลน์มีจำนวนมาก  ควรเลือกซื้อจากร้านหรือบริษัท ที่มีความมั่นคง และมีที่ตั้งชัดเจน การติดต่อได้ชัดเจน  เนื่องจากลู่วิ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องมีบริการหลังการขายหรือการรับประกัน

ร้านค้าออนไลน์บางร้านเป็นร้านค้าชั่วคราว และไม่ใช่บริษัทที่ขายสินค้าโดยเฉพาะ มีการลดราคาเป็นอย่างมาก แต่อาจมีปัญหาในการติดต่อหรือบริการได้ในภายหลัง

 

ขอบคุณที่มาจาก : megamaxfitness.com

Facebook Comments

Check Also

3 “ท่าออกกำลังกาย” ลดต้นขา ลดหน้าท้อง

ปัญหาต้นขาและหน …