ไม่ต้องมีเวลามากก็สร้าง สุขภาพดี ได้จากพฤติกรรมที่ควรทำเหล่านี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้ หันหน้ามองไปทางไหนก็พบเจอแต่ความเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น 24 ชั่วโมง ของใครหลายคน จึงแทบไม่เพียงพอที่จะใช้สร้าง สุขภาพดี และความแข็งแรงให้เกิดขึ้นกับร่างกายได้เลย

ซึ่งเรามองว่าสาเหตุหลักๆ นั้น อาจมาจากการเดินทางที่กินเวลาแสนยาวนานกว่าจะกลับถึงบ้าน หรือแม้กระทั่งกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันอีกมากมายที่ล้วนจำเป็นต้องทำ ต่างก็มีส่วนก่อให้เกิดเป็นความเหนื่อยล้า โรยรา และส่งผลให้บางคนไม่มีความคิดแม้แต่จะเดินหน้าเข้าฟิตเนส หรือสวนสาธารณะ เพื่อขยับร่างกายเลยเสียด้วยซ้ำ

แต่จะว่าไปแล้ว บางทีเราก็อาจไม่จำเป็นต้องมีเวลาที่มากมายอะไรขนาดนั้น ก็สามารถสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดีได้ ด้วยพฤติกรรมที่ควรทำเป็นประจำ เหล่านี้นั่นเองค่ะ

เติมสารอาหารให้ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ

เรามักจะเคยได้ยินอยู่เสมอ ในเรื่องของการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือการเติมเต็มสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายให้ครบถ้วน เพราะมันจะสามารถช่วยส่งเสริมร่างกายและนำพลังงานเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถ้าหากขาดหมู่ใดหมู่หนึ่งไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกาย อันเนื่องมาจากสารอาหารหลักในแต่ละหมู่นั้น มีคุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกัน

แต่เราก็เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังละเลยและมองข้ามความสำคัญของการทานอาหารให้ครบถ้วนอยู่ เนื่องจากไม่มีเวลาใส่ใจในอาหารการกินมากเสียขนาดนั้น จนส่งผลให้หลายคนมักเลือกกินแต่อาหารที่หาซื้อง่าย หรืออาหารที่ให้ประโยชน์น้อย ซึ่งมันสามารถสร้างผลเสียต่อร่างกายได้มากเลยทีเดียว

ในเมื่อไม่มีเวลามากพอที่จะออกกำลังกาย การเติมเต็มสารอาหารให้ครบถ้วน จึงนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยสร้างสุขภาพดีและความแข็งแรงให้เกิดขึ้นได้ ฉะนั้น GoodLifeUpdate เลยอยากขอให้ทุกคนลองหันมาเริ่มต้นการมีสุขภาพดี โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายกันมากยิ่งขึ้น

ควรติดการดื่มน้ำเปล่าให้มากกว่าน้ำหวานชนิดอื่นๆ

เรามักจะเน้นย้ำให้ทุกคนหันมาดื่มน้ำเปล่ากันให้มากๆ หรือเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายกันอยู่เสมอ เนื่องจากหากปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำในระดับอ่อนๆ บ่อยๆ เช่น เสียเหงื่ออย่างหนัก อาเจียน ท้องเสีย อาจเสี่ยงต่อปัญหาเรอเปรี้ยว ท้องผูก นิ่วในไต และไตวาย ส่วนถ้าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรงบ่อยเข้า อาจส่งผลให้ร่างกายหยุดทำงาน และเกิดอาการช็อกได้

ส่วนการรับประทานน้ำหวานแทนการดื่มน้ำเปล่า ก็สามารถส่งผลร้ายต่อร่างกายได้มากไม่แพ้กัน เนื่องจากความหวานที่มากเกินไป จะทำให้ร่างกาย “แก่เร็วยิ่งขึ้น” เพราะน้ำตาลถูกดูดซึมได้ง่าย ร่างกายจึงมีความต้องการน้ำตาลตลอดเวลา และทำให้เกิดการก่อตัวของสารอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของริ้วรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ

ดังนั้น นิสัยการดื่มน้ำน้อย หรือดื่มเพียงนิดเดียวต่อวัน อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในหลายด้าน อย่างเช่น ทำให้เลือดมีความเข้มข้นและหนืด เกิดอาการท้องผูก ปัสสาวะมีกลิ่นแรง และปวดหัว อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควรนอนให้เป็นเวลา

ตามที่คุณหมอแอมป์ ผู้เขียนหนังสือ “นอนถูกวิธี สุขภาพดีตลอดชีวิต” ได้กล่าวไว้ว่า นอนดึก นอนน้อย ไม่เท่ แต่จะป่วย เพราะการนอนหลับที่ดีคือ การนอนไม่เกิน 22.00 น. และนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งหลั่งออกมาในช่วงกลางคืน ดังนั้น การนอนให้เร็ว และนอนเต็มอิ่ม จึงจะดีที่สุด แต่หลายคนอาจเคยชินกับการนอนดึก และหากทำติดต่อจนเป็นนิสัย ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อโรคนาฬิกาชีวิตแปรปรวนได้

ส่งผลให้เมื่อถึงเวลานอนปกติของคนทั่วไปกลับนอนไม่หลับ หรือไม่ง่วงนอน จึงเข้านอนตามเวลาปกติไม่ได้ เมื่อถึงเวลาตื่นในตอนเช้า ก็จะตื่นยากและมักตื่นสาย ภาวะนี้ส่งผลรบกวนต่อชีวิตประจำวัน รวมไปถึงหน้าที่และกิจกรรมสำคัญหลายอย่างที่ต้องทำ

ทางที่ดี หากนอนไม่หลับ ควรริเริ่มแก้จากการผ่อนคลายทั้งกายใจก่อนเข้านอน เพื่อช่วยให้นอนหลับง่าย และหลับได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น การผ่อนคลายที่ว่านี้ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการหยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การอ่านหนังสือธรรมะ การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น การฝึกหายใจเพื่อผ่อนคลาย รวมไปถึงการสวดมนต์ นั่งสมาธิก่อนนอนด้วย

เดินขึ้นบันไดเสียบ้าง อย่างน้อยก็ได้ขยับร่างกาย

เชื่อว่าทุกวันนี้ หลายๆ คนอาจกำลังรู้สึกว่าตัวเองนั้น ขยับร่างกายน้อยมาก โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนหรือมนุษย์ออฟฟิศอย่างเราๆ ที่มักต้องนั่งทำงานติดอยู่กับที่เดิมเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะไม่ได้ใช้แรง โยกย้ายที่ หรือลุกไปยืดเส้นยืดสายให้ร่างกายได้เผาผลาญหรือใช้พลังงานบ้างเลย

ดังนั้น ในแต่ละวัน คนเรามีกิจกรรมที่ต้องทำตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอนหลายอย่าง พฤติกรรมง่ายๆ อย่างเช่น การเดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน แม้จะดูเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เป็นวิธีออกกำลังกายง่ายๆ ที่ไม่แย่เลย และถึงแม้ว่า การเคลื่อนไหวร่างกายในระหว่างวันอาจเทียบไม่ได้เลยกับการออกกำลังกายแบบจริงจัง แต่การเดินไปยังจุดหมายต่างๆ แทนการนั่งรถ หรือการเดินขึ้นรถไฟฟ้าแทนการนั่งติดอยู่กับเบาะรถยนต์นานๆ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมัน และเป็นการเริ่มต้นสร้างสุขภาพที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

 

ขอบคุณที่มาจาก : goodlifeupdate.com