วิธีดูแลตัวเองในวัย 50 ให้ดูสวยแจ๋ว อ่อนกว่าวัยจนใครก็เดาอายุไม่ถูก

          ผู้หญิงหลายคนที่รักสวยรักงาม เมื่อตอนยังเป็นสาวรุ่นก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องการถนอมร่างกาย หรือพยายามทำให้ตัวเองดูดีสักเท่าไหร่กันนัก เนื่องจากผิวพรรณ รูปร่างในวัยนั้น แค่แต่งนิดแต่งหน่อยก็ดูดีได้แล้ว บางคนพออายุเข้าเลข 3 ก็ยังคงดูดี ไม่ได้แก่ลงมากเหมือนที่ใครหลายคนพูดกัน แต่พอเข้าเลข 4 ปุ๊ป ร่างกายกลับโทรมลงอย่างรวดเร็ว จากที่เคยแต่งชุดไหนก็สวย ตอนนี้กลับไม่ได้เป๊ะอย่างที่คิด ใบหน้าที่เคยเรียบเนียนกลับมีรอยเหี่ยวย่นเต็มไปหมด เมื่อถึงเลข 5 ช่วงวัยที่สุขสบายไปเสียทุกสิ่ง ทั้งฐานะและการงาน ขาดอยู่อย่างเดียวคือความงามแบบวัยสาวนั่นเอง

สาว ๆ หลัก 5 หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตก็อยากจะกลับมาสวยเด้งเหมือนตอนวัยสาวบ้าง แต่ไม่รู้ต้องแต่งหน้าแต่งตัวหรือดูแลตัวเองแบบไหน ถึงจะเป๊ะปังสมวัย ถ้าจะให้ดีขอปังและอ่อนเยาว์ลงแบบวัยสาวด้วยจะดีมาก พอมีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับสาววัย 50 อัปบ้างไหมนะ ? ไม่ต้องเป็นห่วงไป ก็ใคร ๆ เขาบอกกันว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาทำให้คำกล่าวนี้เป็นจริงเอง ด้วยเคล็ดลับการดูแลตัวเองในวัย 50 ให้ดูดีและอ่อนกว่าวัยทั้ง 10 ข้อ ถ้าทำตามได้สักครึ่งหนึ่งรับรอง ต้องมีคนเรียกน้องกันเป็นแถว มีเทคนิคไหนบ้างนั้นมาดูกัน

1. ลงทุนกับครีมบำรุงผิวดี ๆ สักตัว

เคล็ดลับความงามไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงวัยไหนต่างก็ต้องยึดไว้เป็นหลักในใจ นั่นคือการเลือกครีมทาผิวที่มีคุณภาพและสามารถแก้ไขจุดบกพร่องของเราได้ โดยเฉพาะสาว ๆ วัย 50 ปีขึ้นไป ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นคือสิ่งที่น่ากังวลใจมากที่สุด ลองหันมาใช้ครีมที่ต่อต้านและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างอยู่หมัด ทาทั้งเช้าเย็นอย่าให้ขาด รับรองว่าสาว ๆ จะมีผิวสวยในวัย 50 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกเช้าก่อนออกจากบ้านด้วย ริ้วรอย จุดด่างดำไม่ถามหาแน่นอน

2. ลงไพรเมอร์และคอนซีลเลอร์ให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน

   จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยกอตตินเกน (University of Gottingen) ระบุว่า นอกจากริ้วรอยบนใบหน้าจะเป็นตัวกำหนดอายุเราได้เเล้ว สีผิวที่ดูไม่สม่ำเสมอก็ยังทำให้เรามีอายุมากขึ้นได้ด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยหรือต้องการให้หน้าดูเด็กลงอีกสักนิด ควรลงไพรเมอร์และคอนซีลเลอร์ก่อนแต่งหน้าทุกครั้ง จะช่วยให้ผิวเราดูดีขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งจะได้ไม่ต้องลงแป้งพัฟให้หนาเตอะเกินไปด้วย แค่นี้ก็ดูเด็กลงได้แล้ว

   3. ลองทาลิปสติกสีอ่อนแบบสดใส ๆ ดูบ้าง

   สาว ๆ สูงวัยหลายท่านมักจะติดใจกับการทาลิปสติกสีเข้ม เพราะมันช่วยให้ใบหน้าดูมีสีสันที่โดดเด่นและไม่จืดชืดจนเกินไป แต่ความจริงแล้ว ลิปสติกสีเข้มเหล่านั้น ก็มีส่วนทำให้เราดูหน้าดุและแก่ขึ้นมา 2-3 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นลองหันมาทาลิปสติกสีหวาน ๆ แบบเด็กวัยรุ่นดูบ้าง เช่น สีชมพูอ่อน สีส้มนู้ด เป็นต้น แล้วก็ใช้ลิปกลอสเติมความอวบอิ่มให้ริมฝีปากสักหน่อย รับรองว่าดูเด็กลงจนคนรอบตัวทักแน่นอน

4. เขียนคิ้วให้ดูหนาขึ้นมาเล็กน้อย

   ด้วยเทรนด์เขียนคิ้วสมัยก่อนอาจจะเน้นให้ผู้หญิงเขียนคิ้วเรียวเล็กเข้าไว้ เพื่อที่จะได้มีใบหน้าสวยคมตามรูปคิ้ว ซึ่งสาว ๆ วัย 50 ก็มักจะมีรูปคิ้วที่เรียวบางเกินไปนิด แม้จะทำให้ใบหน้าดูสวยคม แต่มันกลับทำให้เราหน้าแก่ตามไปด้วย ควรเปลี่ยนสไตล์การเขียนคิ้วเสียใหม่ ด้วยการวาดให้คิ้วหนาและเข้มขึ้นมาสักหน่อย อย่ากันคิ้วจนเล็กเกินไป แต่ถ้าใครเคยทำการสักคิ้วถาวรมา ลองหาช่างแก้คิ้วมืออาชีพมาช่วยเหลือ ปรับแต่งส่วนที่ไม่สวยหรือเส้นเล็กเกินไปให้ดูสวยตามยุคสมัย แล้วความหน้าเด็กก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

   5. ทำสีผมเพื่อเพิ่มความอ่อนเยาว์

   แม้ว่าบางคนจะยอมรับในความชราและการมีผมหงอกได้ แต่ก็อย่าลืมว่าผมขาวที่แซมมาบนหัวทำให้เราดูแก่ขึ้นหลายปีเหมือนกัน หากสาว ๆ คนไหนยังอยากดูดีในแบบวัยสาวอยู่ละก็ ควรใส่ใจเรื่องการทำสีผมได้แล้ว ลองใช้น้ำยาย้อมผมสำหรับผมหงอกโดยเฉพาะ เพื่อกลบสัญญาณความชรานั้นให้มิด แต่ถ้าไม่มีผมหงอกให้กังวลใจมากนัก การทำผมสีน้ำตาลอ่อนหรือทำไฮไลต์ผมดูบ้าง ทำให้เราดูเด็กลงได้อีกทางแน่นอน

6. ใส่กางเกงยีนส์แบบรัดรูปแบบตอนสาว ๆ

   สิ่งหนึ่งที่ผู้หญิงเราจะเลิกทำเมื่อโตขึ้นคือการใส่กางเกงยีนส์รัดรูปแบบวัยสาว เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้ใส่หรือบางทีก็คิดว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับวัยแล้ว แต่ไม่จริงเลย ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ก็สามารถสวมใส่กางเกงยีนส์ได้ทั้งนั้น ลองหยิบกางเกงยีนส์ตัวเดิมที่เคยใส่ ไม่ก็หาซื้อตัวใหม่ที่เข้ากับรูปร่างของเราในตอนนี้ เมื่อถึงวันหยุดอย่างวันเสาร์ – อาทิตย์ ให้ใส่ออกไปเที่ยวเล่นดู ปลดปล่อยตัวเองจากชุดวัยทำงานที่สร้างความภูมิฐาน ด้วยการใส่กางเกงยีนส์สุดแซ่บก็ปลุกพลังของเราได้ดีเหมือนกันนะ
   
   7. เลือกใช้น้ำหอมกลิ่นผลไม้เพิ่มความสดใส

   บางคนอาจจะสงสัยว่ากลิ่นน้ำหอมช่วยทำให้เราดูเด็กลงได้อย่างไร แต่จากผลการทดลองของ Alan B Hirsch แห่งสถาบันการวิจัยด้านกลิ่นและรสบำบัดในชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าผู้ชายที่ดมกลิ่นจากตัวผู้หญิงซึ่งใส่น้ำหอมกลิ่นผลไม้ แล้วทายอายุพวกเธอ ปรากฎว่าเฉลี่ยแล้วผู้ชายเหล่านั้นทายอายุผู้หญิงที่ใส่น้ำหอมกลิ่นออกแนวผลไม้เด็กกว่าอายุจริงถึง 6 ปีเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าอยากดูเด็กลงแม้กระทั่งกลิ่นกายก็เปลี่ยนมาใช้น้ำหอมกลิ่นผลไม้ได้เลย

8. ออกกำลังกายกระตุ้นพลังงานวัยสาว

   ยิ่งเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น ความเฉื่อยชาทั้งหลายก็มักจะมาครอบงำชีวิตเราได้ง่ายดาย ทั้งการเดิน การทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน ต่างก็ไม่กระฉับกระเฉง ดังนั้นสาว ๆ ควรหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และเพิ่มความกระปี้กระเป่าแบบตอนสาว ๆ จะดีกว่า อย่างน้อยก็วิ่งพอให้หัวใจได้เต้น เลือดได้สูบฉีด ความแก่ทั้งหลายก็ไม่กล้ามาเยือนแล้ว
   
   9. กินวิตามินเสริมผิวสวย

   อย่าเพิ่งยอมหมดหวังกันง่าย ๆ นะคะ ต่อให้เราจะมีอายุมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องเอาชนะมันพร้อมกับเอาความสาวคืนมาสู่ชีวิตให้ได้ หาวิตามินที่ช่วยเสริมทั้งสุขภาพและความงามมากินดู อย่างวิตามินซี วิตามินอี ช่วยในเรื่องผิวพรรณและริ้วรอยเหี่ยวย่น เสริมทัพด้วยการทานเเคลเซียมเพื่อช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งเเรง เดินเหินได้ว่องไวแบบวัยแรกรุ่นนั่นเอง

10. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

    เคล็ดลับที่สำคัญที่สุด อีกทั้งยังเป็นกุญแจแห่งความอ่อนเยาว์และสุขภาพที่ดี ไม่ว่ายาวิเศษใด ๆ ก็ทดแทนไม่ได้ นั่นคือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย ๆ วันละ 6 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่นอน 2 ชั่วโมง ตื่น 3 ชั่วโมง แล้วนอนต่ออีก 2 ชั่วโมง นั่นคือการนอนแบบไม่มีคุณภาพ ซ้ำยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย ควรนอนหลับติดต่อกันตลอด 6 ชั่วโมง ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ต่อยาว ๆ ถึง 8 ชั่วโมงจะดีมาก ตอนเช้าตื่นขึ้นมาจะสัมผัสได้ว่าผิวสวยฟู เปล่งปลั่ง แถมแต่งหน้าง่ายขึ้นด้วย

 

ขอบคุณที่มาจาก : women.kapook.com