ความสวยความงามนับเป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้คน หรือเรียกว่าเป็นจิตวิทยาของโลกเลยทีเดียว การได้เห็นของสวยๆ งามๆ ย่อมจะทำให้จิตใจชุ่มชื่น อย่างไรก็ตาม การดูแลร่างกายให้มีสุขภาพสมบูรณ์ด้วยอาหาร ที่ครบถ้วนก็จะทำให้ผิวพรรณสดใสงดงามได้
แต่ในปัจจุบันนี้สังคมได้พัฒนาไปมาก ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ได้มีการสกัดสารสำคัญจากธรรมชาติ เพื่อพัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นบำรุงพิวพรรณหรือเครื่องประทินความงามอื่นๆ มาวางให้เลือก จึงเป็นผลให้คนที่ยึดติดกับเรื่องความสวยงามต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นอันมาก
สถาบันการแพทย์แผนไทยในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขไทย เขาเล็งเห็นความต้องการของประชาชน จึงพยายามค้นหาทางเลือกให้สำหรับคนรักสวยรักงาม แต่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ก็อาจเลือกใช้สารจากธรรมชาติดูแลความงามด้วยตนเอง โดยไม่ต้องไปซื้อไปหาในราคาแพงๆ ลองเลือกจากตัวเลือกเหล่านี้สิคะ
ว่านหางจระเข้ : เนื่องจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยให้กระบวนการเมตาบอลิซึ่มทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด
ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำจะรู้สึกได้ว่าว่านหางจระเข้มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล ทั้งยังสามารถขจัดสิวและลบรอยจุดต่างดำได้ด้วย
การใช้ว่านหางจระเข้เพื่อบำรุงผิว ทำได้โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใสที่อยู่ภายใน และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบก่อนวาตนเองจะเกิดการแพ้หรอไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงโคนหู ทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดงแสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด บางคนเมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้สิวแห้งเร็วด้วยนะคะ
นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมันก็จะช่วยลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื้นของผิวไว้ได้
งา : งามีทั้งสีดำและสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ประมาณ 45-54% น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
วิธีใช้งาเพื่อความงามนั้น ให้นำเอาเมล็ดงาสดมาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่อง ช่วยประทินผิวให้นุ่มนวลไม่หยาบกร้าน
แตงกวา : มีวิตามินสูง ในผลแตงกวามี ‘เอนไซม์’ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มเกิดขึ้นมาแทนที่
บางคนใช้แตงกวาสดฝานเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาดแทนน้ำแตงกวา ปัจจุบันมีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว
แตงกวาเป็นสมุนไพรที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้ผิวสวย สดชื่น มีน้ำมีนวล
มะเขือเทศ : ในมะเขือเทศมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำผลมะเขือเทศสุกมีสาร Licopersion ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรีย แล้วน้ำมะเขือเทศสดเมื่อนำมาทาหน้าจะรักษาสิว สมานผิว หน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้
ขมิ้นชัน : ในขมิ้นมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย
น้ำผึ้ง : ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรักโทส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อย
น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีดุณสมบัติช่วยสมานผิว นอกจากนี้ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจนในน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
มะขามเปียก : ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี
ปัจจุบันนิยมใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่นและนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มได้
ขอบคุณที่มาจาก : aroka108.com
Facebook Comments