ถ้าให้บอกเป้าหมายชีวิตของแต่ละคนเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะต้องพูดถึงความมั่นคงทางด้านการเงินมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนจำนวนมากที่ยอมทุ่มสุดตัวหาเงินมาเพื่อให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจนลืมไปว่าการมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน วันนี้เรามีเช็คลิสต์พฤติกรรม 5 ข้อทำลายสุขภาพแถมเสี่ยงงานพังแบบไม่รู้ตัวมาให้ทุกคนได้สำรวจตัวเองกันครับ
- หมกมุ่นกับ Social Network มากเกินไปในเวลางานเราจะต้องให้ความสำคัญกับงานมาเป็นอันดับแรก ไม่ควรทำงานและท่องโลกโซเชียลในเวลาเดียวกันไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Youtube, Netflix เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นลดลง โดยเราสามารถเล่น Social Media ได้หากอยู่ในเวลาที่ถูกต้องอย่างช่วงพักเบรก หรือกินข้าว และควรใช้งานอย่างเหมาะสมไม่ใช่หมกมุ่นมาก เล่นทั้งวันจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย ระวังจะเสี่ยงเป็นโรคกระดูกคอเสื่อมนะครับ
- เก็บสะสมความเครียด วัยทำงานอย่างเราที่ต้องทำงานหนักทุกวัน แถมบางวันต้องมาโดนเจ้านายบ่นอีกทำให้เราเกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัวส่งผลให้ร่างกายตึงเครียด แสดงอาการไมเกรน และโรคต่างๆออกมา รวมทั้งสุขภาพจิตใจที่ไม่สดใส เซื่องซึม ก็ทำให้บุคลิกภาพของเราเสียไปด้วย ซึ่งวิธีแก้นั้นก็คือการรู้จักปล่อยวาง และให้ตัวเองได้ผ่อนคลายบ้างอาจเริ่มด้วยการหากิจกรรมต่างๆ ที่ตัวเองชอบทำ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด นอกจากนี้การได้ลองทำสิ่งที่เราชอบเป็นงานอดิเรกก็ช่วยลดอาการเครียดสะสมได้เช่นกัน
- กินมื้อกลางวันมากเกินไป พนักงานออฟฟิศส่วนใหญ่อาการง่วงนอนหลังกินมื้อเที่ยงอย่างเต็มอิ่มแล้วเป็นเพราะระบบย่อยอาหารที่ต้องจัดการย่อยอาหารในปริมาณมากให้เสร็จ ทำให้เลือดไหลเวียนมาอยู่ที่กระเพาะอาหารเป็นหลัก และหมุนเวียนไปสู่สมองน้อยลงจึงทำให้เรารู้สึกง่วง เฉื่อยชา นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลงก็มีผลทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย จึงควรกินอาหารที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดอย่างข้าวกล้อง ผัก ขนมปังโฮลวีท ธัญพืช เมล็ดถั่วต่างๆ ซึ่งมีใยอาหารสูง และให้พลังงานแก่ร่างกายอย่างช้าๆ ทำให้รู้สึกอิ่มนานช่วยให้เราไม่นั่งหลับขณะทำงานในช่วงบ่ายได้
- ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำน้อยจะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพ และเสี่ยงเป็นโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคสมองเสื่อม กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคอ้วน รวมทั้งประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นเพราะว่าร่างกายของเรามีน้ำไม่เพียงพอที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ซึ่งถ้าเรารู้สึกกระหายน้ำแสดงว่าร่างกายของเราขาดน้ำมากเกินไป ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อทดแทนน้ำส่วนที่เสียไป ทั้งนี้เราสามารถเช็คได้ว่าเราดื่มน้ำเพียงพอหรือไม่จากความถี่ของการปัสสาวะ และความเข้มข้นของปัสสาวะที่ออกมา
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนน้อยทำให้เราอารมณ์เสีย รู้สึกเหนื่อยและง่วงซึมตลอดเวลาส่งผลให้เราทำงานได้ไม่ดี มีอาการวูบหรือหลับในซึ่งกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมทั้งปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน หลายคนจึงแก้ปัญหาด้วยการเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แต่รู้ไหมว่าแค่เราจัดเวลานอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ก็ช่วยเรียกความสดชื่นให้แก่ร่างกายกลับมาได้แล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนวัยทำงานส่วนใหญ่ทำกันเป็นประจำจนกลายเป็นพฤติกรรมที่เคยชินโดยไม่ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพที่จะตามมา เพราะเรามัวแต่มองหาลู่ทางที่จะรวยเงินเพียงอย่างเดียว ซึ่งแท้จริงแล้วถ้าเราเข้าใจว่าการมีสุขภาพกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดีนั้นส่งผลให้เราทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพก็ย่อมจะเห็นว่าการรวยสุขภาพนั้นสำคัญมากกว่า
ถ้าเราหยุดร่างกายไม่ให้เจ็บป่วยและเสื่อมลงตามวันเวลาที่ผ่านไปได้ เราก็คงไม่เห็นคนจำนวนมากสามารถจัดสรรเวลาให้งานกับสุขภาพไปด้วยกันได้ มีเวลาไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส กินอาหารที่ดีต่อสุภาพ รวมทั้งมีการวางแผนชีวิตด้วยการทำประกันสุขภาพไว้มากมาย เพื่อที่วันหนึ่งพวกเขาจะได้รู้สึกเจ็บป่วยทางร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ต้องทุกข์ใจกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการรักษา สำหรับบางคนอาจทำให้เงินที่เก็บมาทั้งชีวิตต้องหมดไปเพราะความละเลยไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง เพราะการมีเงินมากมายนั้นซื้อสุขภาพให้กลับมาดีเหมือนเดิมไม่ได้ แม้ว่าจะต้องการมากแค่ไหนก็ตาม
ขอบคุณที่มาจาก : manulife.co.th
Facebook Comments