การทำงานในชีวิตจริง เลี่ยงไม่ได้เลยที่เราจะต้องเจอกับความเครียด ความกดดัน หรือแม้กระทั้งต้องทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ การที่นักพัฒนาอย่างพวกเราทำงานได้บรรลุตามแผน และเป้าหมายมันก็ดูเป็นเรื่องที่ดี นั้นอาจช่วยให้เราเป็นนักพัฒนาที่ดีได้ แต่บางครั้งเรามัวแต่มองเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้า จนละเลยเรื่องสุขภาพ และอาจจะเป็นปัญหาตามมาได้
ข้อดีของการมีสุขภาพที่ดี
- มีสมาธิมากขึ้น
งานในสายของพวกเรา เป็นงานที่ใช้สมาธิค่อนข้างสูง การที่เรามีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตที่แข็งแรง ย่อมส่งผลให้เราจัดการระเบียบวิธีการคิดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น — เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ป่วยบ่อย จะมีสมาธิในการทำงานได้ไม่เท่ากับคนที่แข็งแรง แน่นอนว่าความเจ็บป่วยพวกนั้นมันทำลายสมาธิของเขา
- ฮอร์โมนสมดุล
การออกกำกายสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะคาดิโอ หรือเวทเทรนนิ่ง ถ้าเราทำจนเป็นกิจวัตร มันจะช่วยทำให้ฮอร์โมนในร่างกายสมดุล เราจะกระปี้กระเปร่ามากขึ้น เวลานอนเราจะหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การตัดสินใจดีขึ้น
จากสองข้อข้างต้น ถ้าเรามีสมาธิสูง และสารเคมีในร่างกายเราสมดุลแล้ว หากมีปัญหาที่ต้องการการตัดสินใจ การตัดสินใจครั้งนั้นเราจะทำได้ดีขึ้น เนื่องจากเรามีพลังงานมากพอที่ไม่เหนื่อยหน่ายกับปัญหา และมีสมาธิพร้อมที่จะเพ่งไปกับการแก้ปัญหา การตัดสินใจครั้งนั้นจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
- อารมณ์ดี
งานสาย developer เป็นงานที่ใช้ทักษะค่อนข้างสูง และเป็นงานในลักษณะ problem solving ซะเยอะด้วย การเจอปัญหาเยอะๆ มันไม่ใช่เรื่องดี ไหนจะต้องสู้กับ dead-line ไหนจะต้องรับมือกับบัก ถ้าเราสติไม่มั่นคง เราได้นั่งเศร้าหมองจมอยู่กับปัญหาแน่ แต่ถ้าเราสุขภาพดี มันจะส่งผลทำให้เราจิตใจดีขึ้น อารมณ์ดีขึ้นด้วย นั้นทำให้เรารับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น
- มีความละเอียดรอบคอบ
สุขภาพมักจะส่งผลกับวิธีคิดและไตร่ตรองของเราด้วย เปรียบเทียบกันถ้าเราต้องคิดโค้ดยากๆ ตอนเราป่วย กับตอนที่เราสุขภาพดี แน่นอนว่าตอนสุขภาพดีเราคิดงานได้ละเอียดกว่าอยู่แล้ว
- ทำงานได้มากขึ้น
ถ้าเราทำงานหามรุ่งหามค่ำ 3 วัน แล้วลาป่วยไป 2 วัน เมื่อเทียบกับทำงานวันละ 6–8 ช.ม. ทุกวัน แต่เน้นการทำงานที่มีประสิทธิภาพ การทำงานแบบรักษาสุขภาพจะทำให้เราทำงานได้มากขึ้น ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว — ยิ่งไปกว่านั้น ในกรณีที่เราต้องทำงานร่วมกับทีมอื่นๆ หรือคนอื่นๆ การที่เรามาทำงานได้ทุกวันย่อมส่งผลดีกว่า เพราะมันทำให้การประสานงานง่ายขึ้น
การรักษาสุขภาพทำได้อย่างไรบ้าง
- ออกกำลังกาย
ข้อนี้ชัดเจนมาก เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะมันช่วยปรับสมดุลร่างกาย แต่ที่สำคัญคือเราต้องออกกำลังกายให้ถูกวิธี ไม่งั้นเราจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจนัก — และที่สำคัญที่สุดควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจจะ 2–5 ช.ม. ต่อสัปดาห์ แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มแล้วแต่เวลาว่างของเรา
- กิน ดื่มเที่ยว
ในสัก 1 วันของ Sprint เราควรมีวันที่ได้แฮงเอาท์เม้าท์มอยกับทีมบ้าง มันจะช่วยในทีมมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น ผลการวิจัยยังพบว่า การดื่มแอลกอฮอล์บ้าง (ในปริมาณที่เหมาะสม) จะส่งผลกับการทำงานในเชิงบวก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ แต่ถ้ากินมากเกินไป จะได้ผลเสียมากกว่านะ
- มีงานอดิเรก
งานอดิเรกควรเป็นงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมนะ ถ้างานอดิเรกเป็นกิจกรรมที่ได้ใช้ร่างกาย ก็ชัดเลยมันทำให้เราได้ออกกำลังกายอีก แต่ถ้าเป็นงานอดิเรกทางด้านศิลปะ เช่นร้องเพลง วาดรูประบายสี มันจะช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้น
- กินอาหารที่ดีเยอะๆ กินอาหารที่ชอบบ้าง
การกินเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ของชีวิตเหมือนกัน เราควรเลือกกินอาหารที่ดีเข้าไว้ แต่นานๆ ทีกินอาหารที่ชอบบ้างก็ได้ แต่ถ้าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรโหลด App Eatigo ติดเครื่องไว้สิ
- เสพงานอาร์ต
แล้วแต่เราเลยไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย รูปวาด นิยาย ภาพยนตร์ เพลง มันล้วนแล้วแต่ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น แต่อย่าไปเสพสายดาร์กหล่ะเดี๋ยวจิตตก
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนคืออีกหัวใจหลักในการดูแลตัวเองเหมือนกัน ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ มันจะทำให้ร่างกายเรามีพลังงานและมีความพร้อมสำหรับวันใหม่
อวัยวะส่วนใดเราควรดูแลเป็นพิเศษ
- ตา
นักพัฒนาแอปพลิเคชันจะใช้สายตาเยอะมากกกกกกก เราควรมีช่วงเบรกอย่าปล่อยให้ตาแห้ง หรือใส่แว่นกรองแสงบ้าง หยุดพัก 10 นาที ทุกๆ 50 นาทีบ้าง อย่าหักโหมเกินไป ตาเรามีอยู่คู่เดียว และมันก็เป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพเรา
- นิ้ว มือ ข้อมือแขน
งานสายนี้มักนิ้วคล่อง 555 เราควรดูแลมัน ยืดเส้นยืดสายบ้าง อย่าปล่อยให้นิ้วล็อก นิ้วฝืด ไม่งั้นพิมพ์โค้ดลำบาก
- หลังและคอ
เพื่อป้องกันการเมื่อยหลัง เมื่อยคอ เราควรเลือกเก้าอี้ที่นั้งสบาย ปรับจอให้อยู่ในระดับสายตา พยายามนั่งหลังตรงไว้ ถ้าเรารักษามันดีๆ จะทำให้เราเขียนโค้ดได้อีกนาน
- ทางเดินหายใจ
การหายใจที่ถูกต้องจะช่วยให้เราเหนื่อยช้า และมีสมาธิมากขึ้น แต่ถ้าเราคัดจมูก หายใจไม่คล่อง นอกจากเราจะหายเหนื่อยง่ายแล้ว สมองเราอาจได้รับออกซิเจนน้อยกว่าที่ควรด้วย นั้นอาจทำให้เรามีสมาธิน้อยลงด้วย
- ควรรู้จักร่างกายตัวเอง
สุดท้ายเราควรรู้จักร่างกายตัวเอง เช่นถ้ารู้ตัวว่าแพ้ฝุ่น ก็ควรเลี่ยงที่ที่มีฝุ่นซะ/เลี่ยงบุหรี่เป็นต้น คนบางคนอาจมีโรคประจำตัว เลยต้องใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น บางคนก็ทานอาหารบางประเภทไม่ได้ — เราควรทำความรู้จักตัวเองให้ดีเข้าไว้ เราจะได้ไม่เอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับสถานะการณ์ที่ทำให้เราไม่สบายได้
สรุป
การทำงานเยอะ ทำงานเร็วอาจไม่เพียงพอที่จะบอกว่าเราเป็นนักพัฒนาที่ดีหรือไม่ แต่เราต้องมีความรับผิดชอบที่มากพอด้วย ความรับผิดชอบในที่นี่ไม่ใช่รับผิดชอบในงานอย่างเดียว แต่เป็นการรับผิดชอบต่อตนเองด้วย มันจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุข และทำงานได้นานขึ้น เพราะฉนั้นอย่าลืมรักษาร่างกายของเรา ซึ่งเป็นอุปกรณ์การทำงานที่มีชิ้นเดียวให้ดีน้าาาาาาา
ขอบคุณที่มาจาก : medium.com
Facebook Comments