มรกต หรือ EMERALD เป็นอัญมณีที่มนุษย์รู้จักมาตั้งแต่สมัยอียิปต์ เป็นอัญมณีสีเขียวที่มีมูลค่าสูงที่สุดในบรรดาอัญมณีสีเขียวต่างๆ มรกตเป็นอัญมณีแถวหน้าเช่นเดียวกับ เพชร ไพลิน ทับทิม บุษราคัม
ประวัติ
มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า พระนางคลีโอพัตรา เคยเป็นเจ้าของเหมืองมรกตใกล้ทะเลแดง แหล่งมรกตที่เก่าแก่ที่สุดของโลก คือ เหมืองคลีโอพัตรา ในประเทศอียิปต์ แต่ในปัจจุบันกลายเป็นเหมืองร้างและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ จากหลักฐานต่างๆ ทำให้ เห็นว่า มรกตเป็นอัญมณีอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมานานเนื่องจากมีความสวยงาม ราคาสูง และหายาก
คำว่า “Emerald” มาจากภาษากรีก ว่า Smaragdos แปลว่า หินสีเขียว สีเขียว คือ สีที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต สีแห่งความอุดมสมบูรณ์ จึงเชื่อกันว่ามรกตนำมาซึ่งโชคลาภ ความร่ำรวย ชาวเปรูในสมัยก่อนนับถือมรกตเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีอำนาจปกป้องคุ้มครองผู้สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ได้
มรกตยังเป็นอัญมณีที่เทพธิดาวีนัส เทพธิดาแห่งความรักโปรดปรานมาก เชื่อกันว่ามรกตมีพลังอำนาจทำให้คู่รักมีความซื่อสัตย์ต่อกันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักที่จริงใจ เหมาะที่จะให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน และครบรอบแต่งงานปีที่ 20 และ 35 มรกตเป็นส่วนหนึ่งในแก้วนพรัตน์ ที่มีความหมายถึงดาวพุธ จึงเป็นพลอยมงคลสำหรับผู้ที่เกิดในวันพุธด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่อยู่ยงคงกระพัน สามารถป้องกันอาวุธต่างๆและอุบัติเหตุ
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์
มรกตเป็นแร่ในตระกูลเบริล BERYL ที่มีสีเขียว มีองค์ประกอบเป็นเบริลเลียมและอลูมิเนียม สีเขียวเกิดจากธาตุโครเมียมหรือวาเนเดียม หรือทั้งสองธาตุ บางแหล่งอาจเกิดจากธาตุเหล็ก
มรกตมีลักษณะโปร่งแสงถึงโปร่งใส มีความแข็ง 7.5 – 8.0 แต่มีความเปราะและแตกง่าย มีความถ่วงจำเพาะ 2.68 – 2.78 สีเขียวที่เรียกว่าสีมรกตนั้นควรเป็นสีเขียวปานกลางถึงสีเขียวสด จนถึงสีเขียวแกมฟ้า แหล่งมรกตที่สำคัญของโลกในปัจจุบันอยู่ที่เหมืองมูโซ ประเทศโคลัมเบีย ส่วนแหล่งสำคัญอื่น ๆ เช่น บราซิล ซิมบับเว แซมเบีย ไนจีเรีย อัฟกานิสถาน และรัสเซีย
หลักการเลือกซื้อ
มรกตในท้องตลาดโดยทั่วไปมักผ่านการแช่น้ำมันเพื่ออำพรางตำหนิรอยร้าวภายใจ และเพิ่มสีให้ดูสวยงาม มรกตชั้นดี คุณภาพสูงและราคาแพงควรมีลักษณะดังนี้1. มีสีเขียวสด2. มีความใส มีมลทนน้อย หรือมีรอยแตกร้าวน้อย3. ไม่มีคราบสีเหลือง น้ำเงิน หรือขาวปน
มรกตมักนิยมเจียระไนเป็นรูปแปดเหลี่ยมที่เรียกว่า เหลี่ยมมรกต (Emerald cut) เนื่องจาก โดยธรรมชาติแล้ว มรกตเป็นอัญมณีที่มักมีตำหนิมลทิน มีรอยร้าวมากและมีความเปราะสูง นอกจากนี้มรกตยังมีค่าดัชนีหักเหของแสงค่อนข้างต่ำ จึงต้องเจียระไนเป็นเหลี่ยมมรกต ( 8 เหลี่ยม ) ซึ่งจะทำให้ประกายความสวยงามของสีมากกว่าการเจียระไนแบบอื่นๆ โดยมั่วไปมรกตนิยมนำมาทำเป็นเครื่องประดับ แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ จี้ ต่างหู
โดยมักใช้ร่วมกับอัญมณีอื่นๆ เช่น เพชร โทแพซ หรือทับทิม เพราะมีสีสันที่สดใสตัดกับ สีเขียวของมรกตได้เป็นอย่างดี
มรกตถือเป็นอัญมณีประจำเดือนพฤษภาคม เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย ร่มเย็น เชื่อกันว่ารักษาโรคบิดและเป็น ยาระบายได้ เป็นแร่ธรรมชาติที่ช่วยบำรุงสายตา และเชื่อกันว่ายังช่วยให้ผู้สวมใส่รู้อนาคตได้
คุณภาพของมรกตจะวัดจากความบริสุทธิ์ของสีเป็นสำคัญ โดยจะต้องมีสีเขียวสดและสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด มรกตสีเขียวอมเหลือง สีเขียวอ่อนจัดว่าเป็นมรกตที่มีคุณภาพรองลงมาจากเขียวเข้ม มรกตสีเขียวซีดจัดว่ามีคุณภาพต่ำที่สุด
คุณภาพการเจียระไน โดยทั่วไปมรกตที่มีสีเขียวสด เนื้อใส มีตำหนิไม่มากจนบดบังการหักเหของแสง จะมีคุณภาพการเจียระไนที่ดีในเรื่องเหลี่ยมมุมที่มีความคมชัด รูปทรงที่ดีที่สุดของมรกต คือ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัดมุม เรียกว่า “เหลี่ยมมรกต” (Emerald Cut) มรกตที่มีคุณภาพดีขนาดใหญ่กว่า 1 กะรัตนั้นหายาก
โดยธรรมชาติของมรกต จะสามารถมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า เพียงแต่ในการเลือกซื้อมรกตก็ควรจะเลือกเม็ดที่มีตำหนิน้อยที่สุดเช่นเดียวกับพลอยชนิดอื่นๆ และตำหนิที่เห็นก็ไม่ควรมีสีที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับสีของมรกต เช่น ตำหนิสีดำ ตำหนิสีขาวขุ่น และมรกตไม่ควรมีรอยแตกร้าวหรือกระเทาะบริเวณด้านหน้า โดยธรรมชาติมรกตมักมีตำหนิเป็นรอยแตกร้าวเสมอ แต่ในการเลือกซื้อควรเลือกที่มีรอยแตกร้าวให้น้อยที่สุดและรอยแตกร้าวนั้นควรอยู่ภายในเนื้อพลอยไม่ควรเป็นรอยแตกร้าวขึ้นมาบริเวณหน้าพลอย
ตำหนิภายในของมรกตมักมีลักษณะคล้ายรากผักชี เรียกว่า “Jardin”
ในการเลือกซื้อมรกตควรเลือกมรกตที่มีการเจียรเหลี่ยม มากกว่าหลังเบี้ย เพราะมรกตเจียรหลังเบี้ย มักเป็นมรกตที่มีตำหนิภายในมาก ถ้านำมาเจียรน้ำจะไม่มีการสะท้อนแสงที่สวยงาม
มรกตที่มีคุณภาพดีที่สุดคือมรกตจากเหมืองชิวอร์ (Chivor) และเหมืองมูโซ (Muzo) ในประเทศโคลัมเบีย มรกตจากเหมืองมูโซ จะมีเฉดเขียวอมฟ้า มรกตจากเหมืองชิวอร์ มีเฉดเขียวอมเหลือง โดยปกติมรกตที่มาจากโคลัมเบียจะมีสีเขียวที่ชัดเจน มรกตจากแหล่งอื่นๆที่พบก็จะมีประเทศอินเดีย รัสเซีย ซิมบับเว แซมเบีย ปากีสถาน อัฟกานิสถาน และบราซิล
การดูแลรักษา
มรกตเป็นอัญมณีที่มีตำหนิภายในค่อนข้างมาก ทำให้ต้องระมัดระวังในการสวมใส่ ต้องไม่ให้กระแทกกับของแข็งโดยเด็ดขาดเพราะจะทำให้มรกตแตกได้ ควรเลี่ยงน้ำยาทำความสะอาด น้ำหอมและสเปรย์แต่งผมขณะสวมใส่มรกต ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นและแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม แต้มน้ำมันที่ผิวของมรกตทุกๆสองสามปี เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าไปสมานร่องรอย และช่วยให้มรกตมีสีเขียวสวยยิ่งขึ้น
การปรับปรุงคุณภาพ
มรกตจัดเป็นพลอยที่มีการปรับปรุงคุณภาพมากที่สุดเนื่องจากมีลักษณะรอยแตกภายในค่อนข้างมาก จึงนิยมใส่สารเพื่อช่วยบดบังรอยแตกนั้นๆ ได้แก่ น้ำมันพืช น้ำมันจากแร่ หรือแม้แต่น้ำมันหล่อลื่น โดยสารพวกนี้จะซึมเข้าไปในรอยแตก นอกจากนี้ยังมีสารที่มาจาก ยางสนธรรมชาติที่เรียกว่า Canada balsam ซึ่งมีค่าดัชนีหักเหใกล้เคียงกับมรกต ส่วน Cedar wood oil และสารจากธรรมชาติอื่นๆที่มีค่าดัชนีหักเหพอๆกันจะมีราคาแพงกว่า เราอาจมองไม่เห็นสารที่ว่านี้แม้ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงๆ จึงควรระมัดระวังในการเลือกซื้อ
ขอบคุณที่มาจาก : gemoria.com
Facebook Comments