15 เคล็ดลับบำรุงผิวแบบธรรมชาติ

ในปัจจุบันนี้ใครๆก็อยากมีผิวพรรณที่ดูสดใส และเปล่งปลั่งกันทั้งนั้น คนส่วนใหญ่ก็พยายามเสาะหาผลิตภัณฑ์เสริมความงามมาใช้กัน แต่ทราบไหมว่า ผลไม้ ผัก สมุนไพร หรือของที่เราทานนั้นสามารถนำมาใช้ในการบำรุงและดูแลสุขภาพผิวของเราได้ ดังนี้

1.ไข่ไก่

เป็นพระเอกในการดูดสิวเสี้ยน ที่ทำให้ผิวหน้าสดชื่นเต่งตึง และลดริ้วรอย วิธีการทำคือ การนำไข่ขาวคนวนๆให้ทั่วใบหน้า และทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นเพื่อขจัดสิวเสี้ยน หรือจะพอกไข่ขาวเป็นเฉพาะจุดที่มีสิวเสี้ยนมากๆก็ได้ จากนั้นเอากระดาษทิชชู่แผ่นบางๆมาซับตรงที่เอาไข่ขาวทา รอจนแห้งแล้วลอกกระดาษออก สิวเสี้ยนก็จะหลุดออกมาด้วย สามารถทำได้ทุกวันก่อนนอน เพราะไข่ขาวจะช่วยล้างสารพิษที่ตกค้างบนผิวหน้าได้ดี ส่วนไข่แดงจะทำให้ผมนุ่มมากขึ้น โดยการนำไข่แดงมาตีๆและผสมเข้ากับแชมพูใช้สระผมสักครู่แล้วล้างออก

2.น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ทำให้มีน้ำมีนวล ผิวนุ่มชุ่มชื่น เปล่งปลั่ง ในน้ำผึ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย วิธีการทำง่ายๆ คือหลังจากล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น และเช็ดหน้าให้แห้งแล้ว นำน้ำผึ้งมาผสมกับกล้วยบด จากนั้น นำมาทาบนใบหน้าหรือบริเวณตัว ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยขจัดสิวเสี้ยน สิวอุดตันบนใบหน้า ยิ่งไปกว่านั้น น้ำผึ้งไม่ได้บำรุงแค่ผิวพรรณเท่านั้น หากแต่ยังสามารถนำมาใช้แทนครีมนวดหลังสระผมได้อีกด้วย โดยการนำน้ำผึ้งไปผสมกับน้ำมันมะกอก แล้วชะโลมให้ทั่วเส้นผม หมักทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม

3.แตงกวา

แตงกวามีคุณสมบัติในการช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ลดสิว จุดด่างดำ ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ ผิวหน้าดูขาวใส และทำให้หน้าไม่มัน วิธีง่ายๆ เพียงแค่นำแตงกวามาล้างให้สะอาดแล้วนำไปแช่เย็น จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วนำไปปั่นให้ละเอียด และพอกหน้าทิ้งไว้ หรือจะนำแตงกวามาฝานบางๆแล้วนำมาวางบนดวงตาก็จะช่วยทำให้ผ่อนคลาย ชุ่มชื่น บำรุงดวงตา และยังแก้ปัญหาขอบตาคล้ำและตาบวมอีกด้วย นอกจากจะช่วยบำรุงผิวหน้ากับดวงตาแล้วก็ยังสามารถช่วยบำรุงเส้นผม ป้องกันผมเสียได้อีก โดยการนำไปปั่นและพอกผมทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

4.หัวไชเท้า

หัวไชเท้ามีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อีกทั้งยังช่วยลดฝ้าและกระให้จางลงอีกด้วย โดยการนำหัวไชเท้าปอกเปลือก ล้างหัวไชเท้าให้สะอาดแล้วนำมาปั่นละเอียดประมาณ 1 ถ้วย ผสมกับมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ พอกใบหน้าเว้นบริเวณดวงตาทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก หรือจะนำหัวไชเท้าไปปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นแว่นๆ วางไว้ตรงบริเวณที่เป็นฝ้าและกระก็ได้

5.โยเกิร์ต

โยเกิร์ตมีคุณสมบัติช่วยกำจัดสิ่งสกปรกตรงรูขุมขนของเรา ช่วยทำให้ผิวที่หยาบกร้านนุ่มเนียนชุ่มชื่นสดใสดูเป็นสาวสุขภาพดี โดยการพอกโยเกิร์ตให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้จนแห้ง หรือจะเอาโยเกิร์ตรสธรรมชาติครึ่งกระป๋องผสมกับน้ำผึ้งและน้ำมะนาวอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วพอกก็ได้เช่นกัน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตบท้ายด้วยน้ำเย็นจะทำให้ผิวหน้าสดชื่น

6.มะเขือเทศ  

มะเขือเทศมีคุณสมบัติช่วยกระชับรูขุมขน รักษาสิว ทำให้ใบหน้าดูขาวเปล่งปลั่งสดใส และยังช่วยลดรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ดีอีกด้วย โดยการนำมะเขือเทศสีแดงๆลูกโตๆไม่แก่จัดมาล้างให้สะอาดแล้วปอกเปลือก เสร็จแล้วนำมาคั้นเอาแต่น้ำหรือจะปั่นมะเขือเทศปนกาก แล้วใช้สำลีมาชุบทาที่ใบหน้า ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วนำสำลีชุบน้ำแล้ววนๆ นวดอีกครั้ง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นแล้วตามด้วยน้ำเย็นธรรมดาล้างซ้ำอีกที

7.มะนาว   

มะนาวมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ช่วยรักษาสิวและจุดด่างดำ ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น ช่วยผลัดเซลล์ผิว ดูดซับความมันบนใบหน้าและสมานรอยแผล โดยนำมะนาวมาบีบผสมกับดินสอพองแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมนั้นๆ มาพอกที่หน้าแล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือนำเปลือกมะนาวที่บีบแล้วยังมีน้ำอยู่บ้างนำมาถูให้ทั่วตัว เสร็จแล้วล้างออก จะช่วยทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส

8.มะละกอ  

มะละกอมีคุณสมบัติ ช่วยให้ผิวของเราแข็งแรง ซ่อมแซมบำรุงรักษาผิว ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส วิธีการบำรุง ให้นำมะละกอมาบดให้ละเอียด แล้วทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก วิธีนี้จะทำให้ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ หรืออีกวิธีให้นำมะละกอมาบดและผสมกับข้าวโอ๊ตอย่างละครึ่ง ไข่ขาว 1 ฟอง มะนาว 1 ซีก คนให้เข้ากันแล้วนำมาขัดผิวหรือพอกตัวไว้แล้วล้างออก จะทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งกระจ่างใส

9.มะขามเปียก 

มะขามเปียกมีคุณสมบัติช่วยลดความดำกร้านของผิว โดยเฉพาะที่ข้อศอก รักแร้ หัวเข่าที่ด้านๆ โดยหลังอาบน้ำให้เนื้อมะขามเปียกมาถู มาขัดที่ผิวของเราทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ผิวของเราก็จะใสสะอาด นุ่มชุ่มชื่น ส่วนการใช้มะขามดูแลผิวหน้า คือนำมะขามเปียกมาคั้น จากนั้นนำไปต้มไฟอ่อนๆพอเดือดก็ใส่น้ำผึ้งลงไป แต่ต้องคนตลอด สักพักพอได้ที่ก็ปิดเตารอมันเย็นแล้วค่อยนำมาทาหน้า แล้วทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า จะทำให้หน้าเราดูขาวใส แต่การใช้มะขามเปียกนั้นควรใช้อาทิตย์ละไม่เกิน 2 ครั้ง เพราะมะขามเปียกมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆอาจจะทำให้ระคายเคืองได้

10.มะหาด 

มะหาดมีคุณสมบัติ ช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน หรือเม็ดสีในผิว เมื่อเม็ดสีในผิวลดลง ผิวเราก็จะดูขาวขึ้น วิธีใช้คือนำผงมะหาดไปผสมกับเนื้อครีมหรือผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งต่างๆ ที่เรามี จะได้ออกมาเป็นครีมสีน้ำตาล หรือสีน้ำตาลอ่อน จากนั้นทาที่ผิวหน้าได้ตามปกติ โดยที่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมาผสม ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์กันเสียอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และเรายังสามารถนำผงมะหาดไปเป็นส่วนผสมในการขัดหน้าได้อีกด้วย

11.ขมิ้น 

ขมิ้นเป็นสมุนไพรที่นิยมใช้กันมาก เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวดูขาวเรียบเนียน นุ่มชุ่มชื่น กระจ่างใส และยังสามารถแก้ผดผื่นคันได้อีกด้วย โดยเรานำขมิ้นมาสับให้ละเอียด แล้วนำมาขัดที่ตัวก่อนที่จะอาบน้ำ พอกทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด หรือจะเอาขมิ้นไปผสมกับนมสด หรือน้ำผึ้ง มะนาว มะขามเปียก ดินสอพอง มาพอกก็ได้เหมือนกัน

12.มะกรูด   

มะกรูดมีสรรพคุณในการช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ หมองคล้ำ ให้หลุดลอกออกไป ทำให้มีผิวที่กระจ่างใสขึ้น สูตรที่ทำให้ผิวสวย คือให้นำมะกรูด 1 ลูกมาผ่าครึ่ง คั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำมาผสมกับนมสด 1 แก้ว น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกที่ผิวให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้ทำได้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

13.มันฝรั่ง 

มันฝรั่งมีสารที่ต้านอนุมูลอิสระ และมีวิตามินซีที่มีในแป้ง ทำให้มีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนริ้วรอย และความหมองคล้ำของผิวปรับสภาพผิวของสาวๆ ให้แลดูเนียนเรียบและกระจ่างใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ และยังมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีได้ดีอีกด้วย โดยนำมันฝรั่งดิบมาขูด แล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นนำไปขัดถูผิวกายตอนอาบน้ำให้ทั่ว ก็ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

14.ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณที่ช่วยในการรักษาสิวและรอยด่างดำ ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ เพราะว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อ และมีกรดอ่อนๆ โดยนำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาสัก 1-2 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่าง ๆ ดูจางลง นอกจากนี้ยังสามารถช่วยบำรุงผิวกาย ช่วยเติมน้ำในผิว โดยนำเนื้อวุ้นมาล้างให้สะอาด แล้วฝานบางๆมาโปะทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ใช้วิธีกับผิวกายก็ได้ โดยการน้ำเนื้อวุ่นว่านหางไปปั่นให้ละเอียดแล้วนำมาพอกที่ตัว แค่นี้ก็จะทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น

15.ว่านนางคำ

ว่านนางคำเป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารต่อต้านการสร้างเม็ดสีผิว เมลานินของเซลล์ที่ถูกกระตุ้นด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต ทำให้มีผิวพรรณที่ดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เริ่มจากการใช้ว่านนางคำ 100 กรัม ว่านไพร 25 กรัม ขมิ้นชัน 25 กรัม มาหั่นเป็นแผ่นบางๆแล้วนำไปตากแดดจนแห้ง จากนั้นนำมาบดละเอียด และผสมเข้ากับลิ้นทะเล (สมุนไพรรักษาฝ้า) 200 กรัม สารส้มสะตุ 200 กรัม และดินสอพองบดละเอียด 1,000 กรัม จนเป็นเนื้อเดียวกัน และนำไปใส่กระชอนแล้วร่อนจนได้ผงละเอียด แล้วจึงนำไปขัดผิวตามปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก็ล้างออกได้

 

ขอบคุณที่มาจาก : johjaionline