วันอาทิตย์ , พฤษภาคม 19 2024
Breaking News
Home / เกร็ดความรู้ คู่ความงาม / อายุไม่เยอะ แต่ทำไมมีริ้วรอย!..บอกต่อ 5 วิธี ลดริ้วรอย ก่อนวัย

อายุไม่เยอะ แต่ทำไมมีริ้วรอย!..บอกต่อ 5 วิธี ลดริ้วรอย ก่อนวัย

สาว ๆ อย่าชะล่าใจไปว่าเราอายุยังน้อย อีกนานกว่าจะมีปัญหาริ้วรอย ไว้อายุมากกว่านี้อีกสักหน่อยค่อยมาใส่ใจบำรุงผิวหน้า ขอบอกเลยว่าคิดผิดมาก ๆ เพราะว่าปัญหาริ้วรอยไม่ได้เกิดขึ้นจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นแค่สาเหตุเดียว แต่ยังเกิดจากปัจจัยอื่นได้เช่นกัน ดังนั้นเราควรหันมาดูแลผิวหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อความอ่อนเยาว์ของใบหน้าจะได้คงอยู่กับเราได้นานมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

  • แสงแดด มลภาวะ: สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องเจอทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมยังผลเสียต่อสุขภาพและผิวพรรณอีกด้วย ไม่ว่าจะทำให้ผิวคล้ำเสีย แห้งกร้าน เกิดริ้วรอย ดังนั้นเมื่อต้องไปเผชิญกับแสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควันต่าง ๆ เราควรปกป้องผิวก่อนเสมอ ด้วยครีมกันแดด และเมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องรีบล้างหน้าเช็ดสิ่งสกปรกออกให้สะอาดหมดจด
  • Lifestyle: การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนี้มักจะไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพกันเท่าไหร่ อาจจะด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ค่อนข้างเร่งรีบ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการกิน การนอน ทั้งทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ และนอนไม่เป็นเวลา รวมไปถึงคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่บ่อย ๆ จะทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเร็ว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายมากขึ้น
  • ความเครียด: เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอย เพราะเมื่อเกิดความเครียด หลายคนมักจะแสดงออกมาผ่านทางสีหน้า อย่างการขมวดคิ้ว ยิ่งนานวันเข้าก็จะทำให้ริ้วรอยเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นควรทำใจให้สบาย หาอะไรทำให้ไม่เครียดจนเกินไป ก็จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยให้ผิวพรรณสดใสขึ้น

5 วิธีลดริ้วรอยก่อนวัย

1.ปรับ Lifestyle ใหม่

รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยกันแล้ว ใครที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลเสียต่อร่างกายอยู่ ขอให้รีบเปลี่ยนเพื่อสุขภาพที่ดีและผิวพรรณที่สวยงาม จะได้อยู่กับเราได้อย่างยาวนานมากขึ้น โดยเริ่มจากการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย ไม่อดนอนบ่อย ๆ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ เลี่ยงของที่จะทำให้ผิวเสื่อมโทรมได้ง่าย อย่างเช่น น้ำตาล อาหารแปรรูปต่าง ๆ รวมไปถึงแอลกอฮอล์ และบุหรี่ด้วย

2.บำรุงผิวอยู่เสมอ

ปรับ Lifestyle ดูแลตัวเองจากภายในกันไปแล้ว ก็ต้องดูแลภายนอกด้วย อย่างการบำรุงผิวก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ที่สามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ เช่นการสครับผิว เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม หรือจะเป็นการมาสก์หน้า ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และการทาครีม เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว แม้จะบำรุงมากทุกวิธีแบบนี้แล้ว แต่อย่าลืมปกป้องผิวจากรังสียูวีด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง เพราะรังสียูวี จากแสงแดดเป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด

3.พยายามไม่เครียด

เป็นสาเหตุที่ทำให้เราหน้าแก่ไม่รู้ตัว เพราะเมื่อมีอาการเครียด หรือวิตกกังวล ฮอร์โมนคอร์ติซอล (cortisol) จะหลั่งมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ที่เป็นตัวการทำลายเซลล์ผิว และทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินเสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น ซึ่งส่งผลต่อผิวพรรณโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งขาดความยืดหยุ่น และเกิดริ้วรอยได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นเราควรจัดการกับความเครียด และความวิตกกังวลของตัวเองให้ดี อาจจะลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้เราสบายใจ และเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

4.โบท็อกซ์ (Botox)

การฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เป็นวิธี ลดริ้วรอย ที่ได้ผลลัพธ์รวดเร็วที่สุด บางคนอาจจะคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย แต่จริง ๆ แล้วโบท็อกซ์สามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยได้เช่นกัน

เนื่องจากการทำงานของโบท็อกซ์ จะออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อที่มีความหดตัว แข็งเกร็ง ให้คลายตัวลง ไม่เกิดรอยพับ ส่งผลให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึงมากขึ้น ริ้วรอยจึงลดลงได้ในที่สุด โดยผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยจะเริ่มเห็นผลประมาณ 2-3 วัน หลังฉีด และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนที่สุดมื่อผ่านไป 7-14 วัน ซึ่งผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 6-8 เดือนเลยทีเดียว

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียน อ่อนเยาว์ เสริมความมั่นใจให้เราได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ
  • ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยลึกในอนาคตได้ เนื่องจากในช่วงที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์กล้ามเนื้อจะทำงานได้น้อยลง และเมื่อโบท็อกซ์หมดฤทธิ์แล้ว ริ้วรอยจะไม่กลับมาเยอะ หรือลึกเท่าเดิม
  • ฉีดเสร็จภายในเวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องพักหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันที
  • ไม่มีรอยแผล ในบางรายอาจจะมีรอยช้ำจากเข็มเพียงเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการที่สามารถหายได้เอง

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  • ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์ไม่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร เมื่อผ่านไปสักระยะเวลานึงประมาณ 6-8 เดือน โบท็อกซ์จะหมดฤทธิ์ และริ้วรอยก็จะเริ่มกลับมา ทำให้เราต้องมาฉีดซ้ำเพื่อเป็นการคงผลลัพธ์ความเรียบเนียนไว้
  • ในบางรายอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลัง เช่น ปากเบี้ยว หางตาตก เนื่องจากใช้โบท็อกซ์ปลอม หรือฉีดกับหมอกระเป๋า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกฉีดกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย

5.อัลเทอร่า (Ulthera)

นอกจากริ้วรอยเหี่ยวย่นแล้ว ปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัยได้เช่นกัน แม้ว่าความหย่อนคล้อยจะเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ค่อนข้างยาก แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเมื่อก่อนค่ะ! เพราะว่าสมัยนี้สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ให้กลับมายกกระชับขึ้น แถมยังช่วยให้ริ้วรอยดูจางลงได้ ด้วยเทคโนโลยียกกระชับผิว อัลเทอร่า (Ulthera)

อัลเทอร่า (Ulthera) เป็นเทคโนโลยีเครื่องมือยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง ผ่านการปล่อยพลังงานคลื่นความถี่สูง ในรูปแบบอัลตร้าซาวด์ที่มีความเฉพาะเจาะจง ลงสู่ชั้นใต้ผิวระดับ SMAS โดยพลังงานนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนจุดเล็ก ๆ เข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ขึ้นมา เมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินได้รับการฟื้นฟูก็ส่งผลให้ผิวหนังชั้นบนยกกระชับ เต่งตึง เห็นกรอบหน้าชัดเจนมากขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง ดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของอัลเทอร่า

  • ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวยกกระชับขึ้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน ริ้วรอยลดเลือนลง
  • สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำประมาณ 10-15% ว่าใบหน้าดูยกขึ้น หลังจากนั้น 1-3 เดือน จะเห็นผลได้อย่างเต็มที่ที่สุด เนื่องจากคอลลาเจนถูกสร้างใหม่อย่างสมบูรณ์
  • แพทย์สามารถยิงเครื่องมือแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด แม่นยำ เนื่องจากเครื่อง Ulthera มีหน้าจอแสดงผลชั้นผิวหนังของคนไข้ในขณะที่แพทย์ทำการรักษาอยู่ได้แบบ Real time
  • เห็นผลลัพธ์นาน 1-2 ปี ไม่ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิม และการดูแลตัวเองหลังทำด้วย
  • ทำอัลเทอร่า ไม่ต้องพักฟื้น เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้เลย

ข้อเสียของอัลเทอร่า

  • ระหว่างทำอัลเทอร่า อาจจะมีอาการเจ็บบ้าง เนื่องจากเครื่องปล่อยพลังงานความร้อนออกมา จะมีความรู้เหมือนสึกเหมือนมีหนาม เล็ก ๆ จิ้มลงบนผิว และรู้สึกอุ่น ๆ ใต้ผิวหนังบ้าง ซึ่งเป็นความเจ็บที่ทนได้ แต่ถ้าใครทนไม่ได้สามารถบอกแพทย์ได้ตลอดในขณะที่ทำ
  • หลังทำอาจจะมีอาการบวมช้ำบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวด้วย แต่สามารถหายเองได้ในประมาณ 1 สัปดาห์
Ulthera-อัลเทอร่า

Botox กับ Ulthera ทำพร้อมกันได้ไหม?

Botox และ Ulthera สามารถทำควบคู่ไปพร้อมกันได้ค่ะ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของใบหน้าที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะปัญหาผิวหน้าที่ทำให้เราดูแก่กว่าวัย ไม่ได้มีเพียงแค่ริ้วรอยเท่านั้น แต่ความหย่อนคล้อยก็เช่นกัน ดังนั้นทั้งโบท็อกซ์ และ อัลเทอร่าจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ตอบโจทย์มากที่สุด

แม้ว่า Ulthera จะช่วยได้ทั้งยกกระชับ แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอยอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางบริเวณที่ต้องการตัวช่วยอย่าง Botox ด้วย อย่างบริเวณที่เป็นริ้วรอยร่องลึก เช่น รอยย่นบนหน้าผาก รอยย่นระหว่างคิ้ว ดังนั้นเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด แพทย์จึงมักจะแนะนำให้ทำทั้ง Botox และ Ulthera ควบคู่กันไปด้วยค่ะ

โบท็อกซ์ และ อัลเทอร่า ถือเป็นวิธีช่วยให้ปัญหาริ้วรอย และความหย่อนคล้อยลดเลือนลงได้ง่ายมาก และรวดเร็วที่สุด เรียกได้ว่าทำเสร็จก็สวย ดูดีขึ้น หน้าอ่อนวัยขึ้นได้แบบทันใจ แต่ไม่ใช่จะทำที่ไหนก็ได้ เนื่องจากเป็นตัวช่วยที่ง่ายและเป็นที่นิยมมากแบบนี้นี่แหละค่ะ ที่ทำให้บางครั้งอาจจะทำให้เราไปเจอกับของปลอมได้แบบไม่รู้ตัว! ดังนั้นก่อนตัดสินใจทำอย่าลืมศึกษา และเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อ มีมาตรฐาน พร้อมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติและมีความปลอดภัยมากที่สุดเสมอ

ที่มา : apexprofoundbeauty.com

Facebook Comments

Check Also

10 วิธีแก้คอย่น คอเป็นชั้น รอยพับที่คอ ช่วยยกกระชับคอให้เต่งตึง

หลายๆคนมักจะบำร …