วันอังคาร , เมษายน 30 2024
Breaking News
Home / เกร็ดความรู้ คู่ความงาม / สมุนไพรเพื่อความงาม

สมุนไพรเพื่อความงาม

ผู้หญิงหรือผู้ชายในยุคนี้ต่างให้ความสำคัญกับความสวยความงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปัจจัยอื่นในการดำรงชีวิต แต่เมื่อพูดถึงความงามนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อตัวของเรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งโดยปกติแล้วสุขภาพจะดีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม การรับประทานอาหาร และการดำรงชีวิตอย่างปกติสุข เมื่อร่างกายกินได้ ผิวพรรณดี และสุขภาพแจ่มใส ความงามก็จะบังเกิดกับตัวของเราเองโดยไม่ต้องสงสัย 

วันนี้มีเรื่องของสมุนไพรที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามมาฝากคุณผู้อ่าน เป็นสมุนไพรที่ปลูกไว้ข้างๆ บ้าน ที่เรารู้จักกันดี เช่น

– ว่านหางจระเข้ ยิ่งสดยิ่งดี แต่ก่อนใช้ต้องล้างให้สะอาด แล้วปอกเปลือกให้เหลือแต่เจลขาวๆ ข้างใน ปั่นจนเป็นน้ำแล้วเอามาทาผิว หมักผม จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและนุ่มนวล หรือถ้าจะพอกแผล ก็จะช่วยให้แผลหายเร็ว เพราะมีสรรพคุณลดการอักเสบและช่วยให้แผลเป็นเล็กลงด้วย ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักพัก ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิวจะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว

– แตงกวา จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอนไซม์ Cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีน เอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มเกิดขึ้นมาแทน บางคนใช้แตงกวาสดหั่นเป็นชิ้นๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว ใช้เป็นประจำจะทำให้สวยสดชื่น มีน้ำมีนวล…สำหรับสาวๆ มีความลับมาบอก น้ำแตงกวาช่วยลบรักแร้ดำเพราะน้ำแตงกวามีเอนไซม์ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หยาบกร้านให้หลุดออกไป ทั้งยังช่วยทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่เกิดขึ้นมาแทนที่อ่อนนุ่ม อย่ารอช้าลงมือทำกันเลยค่ะ สิ่งที่จะต้องเตรียมมี 1.น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ, 2.น้ำแตงกวาคั้นสด 1 ช้อนชา, 3.น้ำมะนาว 1 ช้อนชา, 4.ผงขมิ้น 1/2 ช้อนชา วิธีทำก็ง่ายๆ เพียงคุณสาวๆ อาบน้ำให้สะอาด แล้วเช็ดตัวให้แห้ง ใช้สำลีชุบน้ำมันมะพร้าวเช็ดบริเวณรักแร้เป็นวงกลม หลังจากนั้นผสมน้ำแตงกวาคั้นสด น้ำมะนาว ผงขมิ้น คนผสมให้เข้ากัน ทาทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด เช็ดให้แห้ง ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ผิวคล้ำใต้วงแขนก็จะค่อยๆ จางลง

– ขมิ้นชัน ในขมิ้นจะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง (สวยแบบสาวโบราณ) ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย

– มะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้าจะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ วางลงบนผิวหน้าก็ได้

– ใบบัวบก ช่วยลดรอยตีนกา วิธีทำใช้ใบบัวบกสดๆ ล้างให้สะอาด หั่นฝอยประมาณ 1/2 ถ้วย เติมน้ำต้มสุกนิดหน่อย นำไปปั่นให้เป็นน้ำข้นๆ กรองเอาแต่น้ำ วิธีใช้ ใช้สำลีชุบทาทั่วใบหน้า หรือจะใช้สำลีแปะไว้ที่ ใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะช่วยบำรุงผิวหน้าให้เต่งตึงไร้ริ้วรอย เพราะใบบัวบกมีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินให้ทำงานได้ดีขึ้น

– มะขามเปียก ใช้มะขามเปียกใหม่ๆ คั้นกับน้ำสะอาดต้มสุก กรองเอาแต่น้ำข้นๆ ประมาณ 1 ถ้วย กับนมสดประมาณ 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน หรือจะใส่เครื่องปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน ลูบไล้ทาทั่วผิวกาย ทิ้งไว้พอแห้งและอาบน้ำตามปกติ เพื่อบำรุงผิวกายให้ขาวใสไร้รอยหมองคล้ำ

– ชะเอมเทศ นอกจากจะนำมากินให้ความหวานชุ่มคอแล้วยังป้องกันอาการไอ สารในชะเอมเทศจะทำให้ผิวขาวได้ เพราะสารชนิดนี้ไปลดการทำงานของเอนไซม์ที่สร้างความคล้ำของผิว

– หัวไชเท้า ส่วนผสม หัวไชเท้า 1 หัว ขนาดเล็กล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือก แล้วหั่นบางๆ นำไปปั่นให้พอละเอียด ใส่น้ำมะนาวสด 1 ช้อนแกง ปั่นรวมกันอีกครั้ง ใช้ทาทั่วผิวหน้า (ยกเว้นรอบดวงตาและปาก) ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้า และกระให้สีจางลง

– ยอดขี้เหล็ก 1/2 ถ้วย, น้ำผึ้งแท้ 1/2 ถ้วย, ยอดมะขาม 1/2 ถ้วย วิธีผสม นำยอดขี้เหล็กและยอดมะขามมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ปั่นรวมกับน้ำผึ้งแท้จนละเอียดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้เนื้อครีมข้นและเหนียวใช้สำหรับนำมาพอกใบหน้าที่สะอาดแล้วก่อนเข้านอน โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดจะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ว่ากันว่าเพียงไม่กี่เดือนก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง จนสามารถสังเกตได้

แต่ทั้งนี้การใช้สมุนไพรทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น อยากให้ดูความเหมาะสมในการใช้ด้วยว่าเราแพ้หรือไม่ หรือให้ศึกษาถึงสรรพคุณหรือสอบถามแพทย์พื้นบ้านเพิ่มเติมถึงวิธีการใช้ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง 

ขอบคุณที่มาจาก : thaihealth.or.th

Facebook Comments

Check Also

5 อาหารที่คนผิวแห้งขาดน้ำควรกินเป็นประจำ กู้ผิวให้กลับมาชุ่มชื้นจากภายใน

ผิวแห้งมาก ผิวแ …